ถ้าพูดถึงเกาะที่อันตรายที่สุด คุณอาจไม่เคยได้ยินชื่อของเกาะ Vozrozhdeniya ที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวในทะเลอารัล ซึ่งในปัจจุบันมันคือดินแดนที่รกร้างที่เต็มไปด้วยเชื้อแอนแทรกซ์ รวมถึงเชื้อโรคที่ร้ายแรงอื่น ๆ อีกมากมาย
ทะเลอารัลเคยเป็นทะเลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก แต่หลังจากที่แม่น้ำหลายสายได้ถูกโซเวียตเบี่ยงไปทดน้ำในไร่ฝ้าย จนในที่สุดน้ำปริมาณมหาศาลก็ค่อย ๆ ลดน้อยลงไป และเหลือเพียงพื้นที่รกร้างที่เต็มไปด้วยทรายเค็ม ซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 60 องศาเซลเซียส และแทบไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตหลงเหลืออยู่
แต่สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ พื้นที่รกร้างที่ปกคลุมไปด้วยเกลือเหล่านี้เต็มไปด้วยเชื้อแอนแทร็กซ์และเชื้อโรคแปลก ๆ อีกมากมายที่สภาพโซเวียตได้ทำการทดลองมานานหลายปี
ย้อนกลับไปตอนที่ทะเลอารัลยังคงเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ Vozrozhdeniya เป็นเพียงดินแดนที่โดดเดี่ยวที่โซเวียตเรียกว่า Aralsk-7 มันเคยเป็นพื้นที่โดดเดี่ยวที่มนุุษย์ไม่เคยรู้จักจนกระทั่งศตวรรษที่ 19 และไม่ปรากฎอยู่บนแผนที่ของสหภาพโซเวียต
การมีอยู่ของมันคือความลับมาโดยตลอด และไม่เคยถูกพบโดยชาติตะวันตก ดังนั้นมันจึงเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทดลองอาวุธชีวภาพ
ตลอดระยะเวลาหลายปี Aralsk-7 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาวุธชีวภาพและถูกใช้เป็นสถานที่ทดสอบโรคแอนแทรกซ์ ไข้ทรพิษ กาฬโรค โรคไข้กระต่าย โรคบรูเซลโลสิส และไข้รากสาดใหญ่ ทั้งหมดนี้ซึมซับเข้าไปในดินทราย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเกาะแห่งนี้ถึงเป็นสถานที่ที่อันตรายมาก
ในปี 1971 นักวิทยาศาสตร์สาวรายหนึ่งได้ล้มป่วยลงหลังจากที่เรือของเธอฝ่าหมอกควันสีน้ำตาลที่อยู่ใกล้กับเกาะ เธอได้รับการวินิจฉันว่าเป็นโรคฝีดาษ แม้จะเคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคนี้มาแล้วก็ตาม สุดท้ายเธอก็นำเชื้อไปติดคนอื่น ๆ อีก 9 คน และมี 3 คนที่ไม่รอด หนึ่งปีต่อมา มีคนพบร่างของชาวประมงที่หายสาบสูญไป 2 คนลอยอยู่ในเรือใกล้กับเกาะ และสาเหตุก็คือโรคระบาด…
หลังจากนั้น ชาวประมงที่ออกไปหาปลาในบริเวณนั้นก็พบซากปลาติดอวนจำนวนมาก จนกระทั่งในเดือนพฤษภาคมปี 1988 ไซกาจำนวน 50,000 ตัวที่เล็มหญ้าบนทุ่งกว้างใกล้ ๆ ต่างก็เสียชีวิตอย่างลึกลับภายในระยะเวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น ซึ่งในปีนั้นเอง โซเวียตตัดสินใจเล่นกับเชื้อแอนแทรกซ์ด้วยการนำสารละลายแอนแทรกซ์จำนวน 100-200 ตัน ไปทิ้งเอาไว้ในหลุมขนาดยักษ์และก็ถูกลืมไป
ชื่อเสียงของเกาะนี้โด่งดังมากขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งปัจจุบันมันมีขนาดใหญ่กว่าเดิม 10 เท่าและเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ไปแล้ว ในช่วงทศวรรษที่ 90 จึงได้มีการอพยพผู้คนโดยรอบและมีการสำรวจเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
ปัญหาของแอนแทรกซ์คือสปอร์ของมันกำจัดได้ยากและสามารถอยู่ใต้ดินได้หลายร้อยปี น้ำยาฆ่าเชื้อหรือการเผาด้วยอุณหภูมิสูง 180 องศาก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้ ที่ไปกว่านั้นคือหลุมแหงนี้ไม่เคยถูกเปิดเผย แต่โชคยังดีที่มันค่อนข้างใหญ่มกาจนมองเห็นได้จากอวกาศ
ด้วยความกลัวว่าเชื้อแอนแทรกซ์จะตกอยู่ในมือคนไม่ดี อเมริกาจึงส่งผู้เชี่ยวชาญไปที่ Vozrozhdeniya เพื่อทำการตรวจสอบ และเมื่อมีการพบร่องรอยของเชื้อแอนแทรกซ์ เงินหลายล้านดอลลาร์จึงถูกใช้ไปเพื่อปฏิบัติการณ์ทำความสะอาด ผงฟอกขาวที่มีคุณภาพสูงจำนวนหลายตันถูกนำมาใช้กำจัดเชื้อแอนแทรกซ์ตลอดหลายเดือน จนในที่สุดสปอร์ของมันก็หายไป
ในผู้เชี่ยวชาญอ้างว่า พวกเขาแน่ใจว่ายังคงมีเชื้อแอนแทรกซ์หลงเหลืออยู่รอบ ๆ หลุมแห่งนั้น สถานที่แห่งนี้ยังคงเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่ควรหลีกเลี่ยงในทุกกรณี
โชคดีที่ Vozrozhdeniya เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เข้าถึงได้ยากที่สุดในโลก ซึ่งคุณต้องให้คนในพื้นที่พาเข้าไป และแน่นอนว่าพวกเขาไม่ยินดีที่จะพาคุณไปอย่างแน่นอน
ที่มา : odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา