นักวิ่งมาราธอนท้าแข่ง Tesla ในการแข่งขันวิ่งมาราธอนสุดแปลก

ร็อบบี บาเลนเจอร์ นักวิ่งชาววีแกนกำลังโด่งดังมาจากการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่ไม่เหมือนใคร จากการที่เขาตัดสินใจลงแข่งกับรถยนต์ Tesla Model 3 ในรายการแข่งขันมาราธอนแนวคิดใหม่ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่าง “คน vs ม้า”

ในทุก ๆ ปี ผู้คนหลายร้อยคนจะมารวมตัวกันที่เมือง Llanwrtyd Wells ในเวลส์ เพื่อมาวิ่งแข่งขันให้ชนะม้าจริง ๆ ในการแข่งขัน Man vs. Horse Marathon ซึ่งเป็นการแข่งขันความอดทนระยะทาง 22 ไมล์ ที่ความเร็วไม่ใช่ปัจจัยสำคัญอีกต่อไป

ทุกคนรู้ดีว่าม้าวิ่งเร็วกว่าคนมากนัก แต่ระยะทางที่ไกลมากก็สามารถทำให้มนุษย์มีโอกาสเอาชนะม้าได้ และมันก็เกิดขึ้นจริงมาแล้วหลายครั้งตลอดการแข่งขันที่มีมานานกว่า 45 ปีที่ผ่านมา

แนวคิดการแข่งขัน Man vs. Horse เป็นแรงบันดาลใจให้กับ ร็อบบี บาเลนเจอร์ นักวิ่งอัลตรามาราธอนที่มีชื่อเสียงมาแข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ในการแข่งขันประเภท “คน vs เครื่องจักร”

“สำหรับหลาย ๆ คน รวมถึงตัวผมเอง Tesla เป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับการคมนาคมตั้งแต่หมดยุคของม้า จะมีอะไรที่ดีไปกว่าการแข่งขันระหว่าง คน vs. ม้าสมัยใหม่” ร็อบบีอธิบายแนวคิดของเขาในการท้าทาย Tesla Model 3

กฎการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่นี้ค่อนข้างเรียบง่ายน คู่แข่งทั้ง 2 จะเริ่มต้นที่จุดสตาร์ทเดียวกัน Tesla Model 3 คันใหม่เอี่ยมจะถูกถอยมาจาก Gigafactory โรงงานใกล้กับออสตินในรัฐเท็กซัส

ทั้งคู่จะวิ่งไปในเส้นทางเดียวกันด้วยความเร็วเท่าไหร่ก็ได้ที่ต้องการ Tesla จะวิ่งไปจนกว่าแบตเตอรีจะหมด ในขณะที่นักวิ่งมาราธอนจะพยายามตามให้ทันด้วยเท้าภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง

เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น Tesla ออกสตาร์ทด้วยความเร็วถึง 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันสามารถวิ่งไปได้ไกลถึง 390 กิโลเมตรก่อนที่แบตจะหมดในวันแรก

ในอีกมุมหนึ่ง ร็อบบี บาเลนเจอร์ สามารถวิ่งได้ไกลถึง 160 กิโลเมตร ภายใน 24 ชั่วโมงแรก ซึ่งเหลือเวลาอีก 48 ชั่วโมงเพื่อไล่ตามคู่แข่งที่เป็นรถไฟฟ้าของเขา

ปัญหาก็คือ ในการแข่งกับเครื่องจักรคุณไม่สามารถวิ่งได้ตลอดเวลา คุณจำเป็นต้องพักผ่อน ซึ่งร็อบบีต้องใช้เวลาพักประมาณ 8.5 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับการนอนหลับและเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยเขาสามารถกินและดื่มในระหว่างวิ่งได้

ถึงแม้ว่านั่งวิ่งอัลตรามาราธอนผู้นี้จะพยายามไล่ตาม Tesla Model 3 ให้ทันภายใน 72 ชั่วโมง แต่เขากลับใช้เวลามากถึง 76 ชั่วโมง 54 นาที ซึ่งก็ถือว่ายังน่าประทับใจมากอยู่ดี เพียงแต่มันไม่เพียงพอให้เขาประกาศตัวเป็นผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้ได้

“มันโหดมาก แต่เราทำได้” ร็อบบีกล่าว และเขาก็รู้สึกดีใจที่ได้ลงแข่งกับรถไฟฟ้าอย่าง Tesla แต่เขาเสริมว่า อากาศที่ร้อนและระดับความชันที่เปลี่ยนแปลงของสนามแข่งส่งผลต่อความเร็วของเขา ทำให้เขาใช้เวลาบนถนนกว่าที่เขาวางแผนไว้แต่แรกหลายชั่วโมง

ที่มา : odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา