Middlemist’s Red คือดอกคามิเลียสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นดอกไม้ที่หายากที่สุดในโลก เนื่องจากมันมีเพียงแค่ 2 แห่งบนโลกนี้เท่านั้น คือในสหราชอาณาจักรและในนิวซีแลนด์
Middlemist’s Red ถูกตั้งชื่อตาม จอห์น มิดเดิลมิสต์ ผู้ที่เก็บดอกไม้หายากชนิดนี้มาจากเมืองจีนตั้งแต่ปี ค.ศ.1804 ต่อมามันกลายเป็นดอกไม้ที่หาได้เฉพาะในครอบครัวชนชั้นสูงในอังกฤษเท่านั้น เนื่องจากมันมีราคาแพงมาก
แม้ว่าชื่อ Middlemist’s Red จะมีคำว่าสีแดง แต่ในความเป็นจริงแล้วดอกของมันมีสีชมพูเข้มมากกว่า
หลังจากนั้นจอห์นได้บริจาคตัวอย่างดอกไม้ชนิดนี้ให้กับสถาบันวิจัยและการศึกษาทางพฤกษศาสตร์ Kew Gardens แต่โชคร้ายที่ดอกไม้ชนิดนี้ค่อย ๆ หายไปจากลอนดอนและทั่วสหราชอาณาจักร
ภายในปี ค.ศ.1823 ได้มีการค้นพบ Middlemist’s Red ที่เหลืออยู่เพียงแค่ที่เดียวคือใน Chiswick House คฤหาสน์หรูหราของ วิลเลียม คาเวนดิช ดยุกแห่งเดวอนที่หก และมันได้รับการดูแลอยู่ภายในบ้านเรือนกระจกเป็นอย่างดี
แต่หลังจากกาลเวลาผ่านไป ได้เกิดเหตุการณ์มากมายที่ทำให้ดอกคามิเลียหายากเหล่านี้ไร้การเหลียวแล จนต่อมามันได้รับการช่วยเหลือจากอาสาสมัครท้องถิ่นที่ช่วยกันฟื้นฟูดอกคามิเลียมากมายหลายชนิดในเรือนกระจกแห่งนี้ แต่นักพฤกษศาสตร์ต้องใช้เวลากว่า 10 ปีในการระบุสายพันธุ์ของดอกคามิเลียทั้งหมดในนั้น โดยมีถึง 7 สายพันธุ์ที่ไม่สามารถระบุได้ แต่หลังจากนั้น เรือนกระจกแห่งนี้ก็กลายเป็นคอลเลกชันดอกคามิเลียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ส่วนดอก Middlemist’s Red ในเรือนกระจกแห่งนี้ถูกพบว่ามีเพียง 36 ดอกเท่านั้น ตามบันทึกระบุว่าพวกเขาต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปีในการระบุดอก Middlemist’s Red จากบรรณานุกรมและภาพวาดทางประวัติศาสตร์ จนกระทั่งในปี ค.ศ.1999 นักวิจัยจึงประสบความสำเร็จในการระบุตัวตนของดอก Middlemist’s Red
ส่วนดอก Middlemist’s Red ได้เริ่มหายไปจากประเทศจีนที่เป็นถิ่นกำเนิดของมัน แต่ก็มีอีกตัวอย่างหนึ่งที่ไปปรากฎยังประเทศนิวซีแลนด์ และมันก็อยู่รอดมาได้นานเกือบ 200 ปี โดยไม่มีใครทราบว่ามันไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร
สำหรับที่นิวซีแลนด์ คุณสามารถพบต้น Middlemist’s Red ได้ที่ Treaty House ในเมืองไวตางี ซึ่งในอดีตเคยเป็นบ้านของ เจมส์ บัสบี มหาเศรษฐีชาวอังกฤษที่อาศัยอยู่ในนิวซีแลนด์ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และมีรายงานว่าต้น Middlemist’s Red ถูกปลูกที่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1833
ปัจจุบัน Middlemist’s Red คือดอกไม้ที่หายากที่สุดในโลกและมีราคาแพงที่สุดในโลกเช่นกัน โดยคอลเลกชันดอกคาลมเลียใน Chiswick House ถูกตีมูลค่าเอาไว้สูงถึง 12.1 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 553 ล้านบาทเลยทีเดียว
และมีรายงานว่าทางสหราชอาณาจักรเองก็ได้ปล่อยขายตัวอย่างของดอก Middlemist’s Red ให้กับผู้คนที่ร่ำรวยพอที่จะมีเงินซื้อมัน โดยล่าสุดมันถูกขายไปให้กับทางซาอุดิอาระเบีย และจะไปอยู่ในตึกสูงระฟ้า Sky Gardens by Rafal ในกรุงริยาด และถ้าตัวอย่างนี้สามารถอยู่รอดได้มันจะกลายเป็นสถานที่แห่งที่ 3 ที่มีดอก Middlemist’s Red อย่างเป็นทางการ
และหากใครที่จะแวะมาชมดอกคามิเลีย Middlemist’s Red ของจริงล่ะก็ คุณจะต้องเดินทางมายัง Chiswick House ในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้จะบานภายใต้เรือนกระจกได้อย่างงดงามที่สุด โดยจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น
ที่มา : arenaflowers | odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา