นักสะสม NFT ขายภาพหินมูลค่า 30 ล้าน แต่ใส่สกุลเงินผิดจนไม่เหลืออะไรเลย

กระแส NFT (Non-Fungible Token) กำลังมาแรงโดยเฉพาะในวงการศิลปะที่ไม่โดนเทเหมือนกับการเล่นเกม NFT ที่ล้มละลายกันเป็นว่าเล่น ซึ่งมีงานศิลปะจำนวนมากที่สามารถทำเงินให้กับศิลปิน รวมไปถึงนักสะสมและนักลงทุน และมักมีอะไรแปลก ๆ มากมายเกิดขึ้นในวงการนี้เช่นกัน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักสะสม NFT ผู้ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า Rock Dust (@dino_dealer) ได้เปิดเผยเรื่องราวการสูญเงินมหาศาลของเขาไปอย่างน่าเสียดาย โดยมีสาเหตุมาจากความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น เขาอยู่ในธุรกิจนี้มานานกว่า 1 ปีแล้ว

“เพียงแค่เดินไปรอบ ๆ Metaverse เพื่อเก็บก้อนหิน แล้วก็ทิ้งพวกมันไป” นี่คือประวัติที่เขาระบุเอาไว้ในทวิตเตอร์

และดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะ ‘ทิ้ง’ หินก้อนหนึ่งไปด้วยความผิดพลาด ด้วยการระบุราคาผิด จากราคา 444 ETH เป็น 444 WEI

ETH (ether) เป็นหน่วยเงินที่อยู่บนเครือข่าย Ethereum ซึ่งมีอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงมาก ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยน 1 ETH จะมีมูลค่าประมาณ 6 หมื่นถึง 1 แสนบาทในช่วงปีที่ผ่านมา

ส่วน WEI เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสกุลเงิน ETH โดย 1 WEI = 0.000000000000000001 เรียกได้ว่ามันแทบไม่มีค่าอะไรเลย

ภาพวาดดังกล่าวมีมูลค่าราว 444 ETH (ประมาณ 30 ล้านบาท) ถ้าเขาตั้งราคาถูกล่ะก็จะทำให้เขาทำเงินได้มหาศาล แต่หลังจากที่เขาตั้งผิดเป็น 444 WEI และถูกบอทซื้อไปทันที จึงทำให้เขาแทบไม่ได้เงินกลับมาเท่ากับเศษสตางค์ด้วยซ้ำไป

นักสะสมผู้สิ้นหวังเปิดเผยเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์ของเขา โดยบอกว่าตนเองตั้งราคาผิดและมีบอทสอยไปอย่างรวดเร็ว และพยายามขายมันต่อในราคา 234 ETH เพียงแค่คลิกเดียวเขาก็สูญเงินไปกว่า 1 ล้านเหรียญ

ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามหาวิธีแก้สถานการณ์หลากหลายวิธีแต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ รวมถึงชุมชน NFT เองก็ไม่อาจให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับเขาได้เลย

ชาวเน็ตคนหนึ่งแนะนำว่า “ตรวจสอบราคาของคุณ 3 ครั้งก่อนโพสต์เสมอ อาจต้องปิดระบบเติมข้อความอัตโนมัติสำหรับเบราว์เซอร์ที่คุณใช้ รวมถึงตรวจสอบตัวเลขและจุดทศนิยมด้วย”

สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมภาพหินธรรมดา ๆ ถึงมีราคาแพงมหาศาลขนาดนี้ ซึ่งภาพดังกล่าวมีชื่อว่า EtherRock เป็นหนึ่งใน NFT ยุคแรก ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพียง 100 ภาพในปี 2017 ซึ่งในปัจจุบันหินแต่ละก้อนถูกขายในราคาที่สูงถึงหลายสิบล้านบาท

และสำหรับ @dino_dealer เป็นเจ้าของหินหมายเลข 44 ที่ทำการขายผิดพลาดจนไม่เงินกลับมาแม้แต่นิดเดียว

ที่มา : twitter | เรียบเรียงโดย เพชรมายา