นี่อาจเป็นเรื่องราวที่ทำให้ชาวโลกเงิบมากที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมาก็ว่าได้ เพราะทั้งสื่อใหญ่ๆ ทั่วโลกรวมถึงทางเพชรมายาเองที่ได้นำเสนอเรื่องราวความดีงามของเรื่องนี้ไป กลับกลายเป็นว่าจริงๆ แล้วเรื่องราวทั้งหมดเป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่ ซึ่งเพชรมายาขอเล่าย้อนไปตั้งแต่ต้นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2017 เมื่อ เคท แม็คคลัวร์ หญิงสาววัย 27 ปีจากนิวเจอร์ซีย์ ได้ขับรถของเธอมุ่งหน้าไปยังฟิลาเดลเฟียเพื่อไปหาเพื่อนของเธอคนหนึ่ง และเมื่อเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 95 น้ำมันของเธอก็เกิดหมดลง
เคทกล่าวว่า “ฉันไม่เคยน้ำมันหมดมาก่อน หัวใจฉันเต้นแรงมากในตอนนั้น” ซึ่งหลังจากรถของเธอดับสนิทได้สักพัก ก็มีชายไร้บ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ
ชายไร้บ้านรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถของเธอ เขาตะโกนบอกเธอให้กลับเข้าไปในรถและล็อคประตูซะ เพราะอยู่ข้างนอกมันไม่ปลอดภัย
“เขาหายไปสักพัก และกลับมาพร้อมกับถังน้ำมัน 1 ถัง” ชายไร้บ้านใช้เงินที่เหลือติดตัวเพียง 20 เหรียญ ไปซื้อน้ำมันให้เธอทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะขับรถไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย ส่วนเคทเองก็ไม่มีเงินจ่ายให้กับชายผู้นั้นเพราะเธอไม่มีเงินสดติดตัวเลย
หลายสัปดาห์ต่อมา เคทมีโอกาสผ่านมาเส้นทางนี้และพบกับเขาอีกครั้ง เธอคืนค่าน้ำมันให้กับเขา และก็นำเสื้อแจ็คเก็ตหนาๆ ถุงมือ หมวก และถุงเท้า เพื่อให้เขามีเสื้อผ้าใส่ให้อบอุ่น ตอนนี้เธอรู้จักชายไร้บ้านมากขึ้น ชื่อของเขาคือ จอห์นนี
จอห์นนี เคยเป็นถึงช่างเทคนิคด้านกระสุนปืนในหน่วยนาวิกโยธินของสหรัฐ นอกจากนั้นเขายังเคยเป็นพนักงานดับเพลิงและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล (เวชกิจฉุกเฉิน) ก่อนที่เขาจะต้องประสบกับมรสุมชีวิตจนกลายมาเป็นแบบนี้
เคทตัดสินใจที่จะทำบางอย่างเพื่อตอบแทนจอห์นนี เธอจึงสร้างแคมเปญ Paying it Forward ระดมทุนในเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อหาเงินช่วยเหลือจอห์นนี โดยตั้งเป้าไว้ที่ 10,000 เหรียญ หรือประมาณ 330,000 บาท
“เขาสนใจที่จะหางานอย่างมาก และฉันเชื่อว่าจะมีสถานที่สะอาดๆ ให้เขาได้นอนพักผ่อนสบายๆ ชีวิตของเขาสามารถกลับไปเป็นปกติได้ใหม่อีกครั้ง” เคทกล่าว
การระดมทุนของเคทได้กระแสตอบรับดีมาก แต่ก็ต้องปิดการระดมทุนไปครั้งหนึ่งเมื่อมียอดเงินบริจาคถึง 1 แสนเหรียญ (3.3 ล้านบาท) เนื่องจากจอห์นนี่ไม่ต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการ์ตรงนี้ แต่สุดท้ายเคทก็เปิดการระดมทุนใหม่ เพราะจอห์นนีจะนำเงินไปบริจาคต่อไป
เรื่องราวก็น่าจะจบลงด้วยดีแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ถ้าไม่บังเอิญว่าเงินบริจาคทั้งหมดที่สูงถึง 4 แสนเหรียญ (13 ล้านบาท) ไม่ได้ถูกนำไปใช้อย่างที่ควรจะเป็น และสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในเรื่องนี้ เป็นเพียงการหลอกลวงครั้งใหญ่
หลายเดือนผ่านไปจากเหตุการณ์ดังกล่าว ปรากฏว่าจอห์นนีได้ตั้งทนายยื่นฟ้องศาลว่าเขาไม่ได้รับเงินบริจาคเลย แถมยังไม่มีบ้านอยู่อีกต่างหาก ซึ่งเงินส่วนใหญ่ที่ได้รับมากลับถูก เคทและแฟนหนุ่มเอาไปซื้อรถยนต์ BMW คันหรู รวมถึงข้าวของส่วนตัวทั้งสิ้น
เมื่อข่าวนี้ออกมา ปรากฏว่าชาวเน็ตต่างเห็นอกเห็นใจชายไร้บ้านกันอย่างมากมาย ตำรวจได้ออกมาสืบสวนคดีนี้อย่างจริงจังและพบว่า จริงๆ แล้ว ชายไร้บ้านกับหญิงสาว รวมถึงแฟนหนุ่มของเธอ ต่างก็เป็นแก๊งค์ต้มตุ๋นทั้งหมด !!!
เริ่มแรกตำรวจเชื่อว่า เคทและแฟนหนุ่มเป็นคนคิดแผน และได้ไปหาจอห์นนี ซึ่งเป็นชายไร้บ้านจริงๆ เพื่อมาร่วมมือกับพวกเขา แต่ภายหลังตำรวจพบว่า จอห์นนีเองเคยใช้แผนแบบนี้มาแล้วเป๊ะๆ ในปี 2012 ที่เว็บ GoFundMe ซึ่งในครั้งนั้น เขาอ้างว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนอร์ธ แคโรไลนา แต่เนื้อเรื่องก็คล้ายเดิมคือหญิงสาวน้ำมันหมด (แต่มียางแตกด้วย) และนั่นทำให้ตำรวจเชื่อว่า แท้จริงแล้ว นี่คือแผนของจอห์นนีที่คิดเอาไว้แต่แรก
ส่วนประวัติของเคทและแฟนหนุ่มก็ไม่ธรรมดา เพราะทั้งคู่เองติดพนัน และชอบไปเล่นคาสิโนใกล้ๆ กับที่ชายไร้บ้านคนนี้อาศัยอยู่ ทั้งหมดพบกันก่อนหน้าเป็นเวลา 1 เดือน ก่อนที่จะเริ่มดำเนินแผนการลวงโลกนี้ขึ้น
เรื่องไม่จริงที่เกิดขึ้นก็คือ เคทไม่เคยขับรถไปน้ำมันหมดมาก่อน แต่เรื่องจริงก็คือ ทั้งหมดได้เงินรวมไปแบ่งกันจำนวนมาก ในขณะที่จอห์นนีกล่าวว่า เขาได้เงินไปเพียงแค่ 75,000 เหรียญ แต่เคทบอกว่าเธอให้เขาไปมากถึง 200,000 เหรียญ และนั่นจึงเกิดเป็นคดีฟ้องร้องกันขึ้น ซึ่งถ้าไม่เกิดคดีนี้ขึ้น ตำรวจเชื่อว่าทุกคนอาจจะลอยนวลไปโดยไม่มีใครจับได้
แล้วเงินทั้งหมดล่ะ พวกเขาเอาไปทำอะไรกันบ้าง ? จอห์นีเองติดยา และใช้เงินหมดไปกับยาเสพติด ส่วนเคทและแฟนหนุ่มเองก็นำเงินไปใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ทั้งกินเที่ยวและไปเล่นการพนันจนเหลือเงินแค่ 10,000 เหรียญ
บทสรุปสำหรับเรื่องนี้ก็คือ ทั้งหมดอาจโดนตัดสินให้ติดคุกนานถึง 10 ปี ในข้อหาฉ้อโกง แต่แฟนหนุ่มของเคทเชื่อว่า เขาจะทำสัญญาเขียนหนังสือเรื่องราวที่เกิดขึ้น และนั่นอาจทำให้ทั้งคู่มีรายได้มากกว่าที่เคยโกงมาด้วยซ้ำไป นี่ยังไม่รวมถึงลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ หากมีใครต้องการหยิบเรื่องนี้มาทำเป็นหนังขึ้นจริงๆ
ส่วนคนใจบุญทั้งหลายที่บริจาคไปในเว็บ GoFundMe ทางเว็บไซต์เองมีนโยบายรับประกันการหลอกลวง ซึ่งทุกคนจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวนอย่างแน่นอน
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : Facebook | nbcphiladelphia | เรียบเรียงโดย เพชรมายา