พ่อแม่พบว่าลูกสาวไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพ่อ หลังผสมเทียมเมื่อ 30 ปีก่อน

ย้อนกลับไปในปี 1991 จีนีน และ ไมค์ ฮาร์วีย์ ต้องการสร้างครอบครัวของพวกเขาให้สมบูรณ์ด้วยการมีลูกด้วยกัน แต่ด้วยภาวะมีบุตรยากจึงทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจไปที่โรงพยาบาลแอครอนซิตี ที่เชี่ยวชาญด้านการมีบุตรยากโดยเฉพาะ

ในตอนนั้นเอง จีนีนเข้าการรักษาโดยวิธี IUI ซึ่งแพทย์จะนำเชื้อของผู้ชายไปคัดกรองก่อนที่จะฉีดเข้าไปยังโพรงมดลูกของเธอ และข่าวดีก็คือ จีนีนตั้งครรภ์และให้กำเนิดลูกสาวตัวน้อยที่ชื่อว่า ‘เจสสิกา’ ในปี 1992

อย่างไรก็ตาม 30 ปีต่อมา ทุกคนกลับพบว่า พ่อแท้ ๆ ของเจสสิกากลับไม่ใช่ ไมค์ ฮาร์วีย์

ความจริงของเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อปี 2020 หลังจากที่จีนีนและไมค์ได้ซื้อที่ตรวจ DNA ให้กับเจสสิกาและสามีของเธอในวันคริสต์มาส และบางสิ่งที่ไม่ปกติก็เกิดขึ้น

ในตอนนั้นเอง พวกเขากำลังจัดทริปไปยุโรป และเจสสิกาคิดว่ามันเป็นวิธีที่น่าตื่นเต้นที่จะได้ติดตามแผนภูมิครอบครัวของเธอ โดยเฉพาะพ่อของเธอที่มีเชื้อสายอิตาลี

“เราคิดว่ามันเจ๋งมากที่จะได้ติดต่อกับญาติห่าง ๆ ในประเทศที่เรากำลังจะไปเยือน” เจสสิกากล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากการตรวจ DNA กลับพบว่า เจสสิกามีความเชื่อมโยงกับแม่ของเธอ แต่ไม่มีวี่แววมรดกทางพันธุกรรมเชื้อสายอิตาลีของพ่อเธอแม้แต่น้อย

เรื่องนี้สร้างความเจ็บปวดอย่างเหลือเชื่อให้กับครอบครัวฮาร์วีย์ และพวกเขาตัดสินใจฟ้อง ดร.นิโคลัส เจ. สปิร์ทอส แพทย์ของเธอในตอนนั้น รวมถึงโรงพยาบาลและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดทันที

จีนีนกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เราต้องการเด็กที่มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมกับเราทั้งคู่”

“เด็กหญิงฮาร์วีย์เป็นสิ่งล้ำค่าที่หายากในครอบครัว เราจึงตื่นเต้นกันมาก ฉันถึงกับกรีดร้องตอนที่เธอลืมตาดูโลก”

จากการสอบสวนภายหลังทราบว่า พ่อแท้ ๆ ของเจสสิกาเป็นชายที่เข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยากกับ ดร.นิโคลัส ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง

แต่ถึงแม้ทางครอบครัวจะเจ็บปวดกับเรื่องนี้อย่างมาก แต่จีนีนกล่าวว่าไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงสายสัมพันธ์ที่ทุกคนมีให้กันได้

“ไมค์เป็นสามีของฉัน เจสสิกาเป็นลูกสาวของเรา การตรวจ DNA จะไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งนี้” จีนีนกล่าว

“เราในฐานะครอบครัวหวังว่า การแบ่งปันเรื่องนี้ให้ออกไปสู่สาธารณะจะสามารถช่วยเหลือและป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้กับคนอื่น ๆ อีก”

ที่มา : ladbible | เรียบเรียงโดย เพชรมายา