หญิงสาวโดนหลอกขาย PS5 แต่ไม่ได้ของ จนเธอตัดสินใจป่วนชีวิตเขา

การถูกหลอกลวงให้ซื้อสินค้าบนโลกออนไลน์กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายคนต้องเจอ และมันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยน้อยคนนักที่จะได้รับเงินคืน และสามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้

แต่เรื่องราวของหญิงสาวนามว่า บริตตานี เอเวอเรตต์ อาจต่างออกไปเล็กน้อย เมื่อเธอได้ทำการสั่งซื้อ Playstation 5 จากชายคนหนึ่ง แต่เธอพบว่าเขาหลอกเชิดเงินของเธอไป และนี่เป็นสิ่งที่เธอจัดการกับเขาและมาแชร์เรื่องราวของตนเองจนกลายเป็นกระแสบนโลกทวิตเตอร์

“วิธีที่ฉันหลอกนักต้มตุ๋น ตอนที่ 1”

“ผู้ชายคนนี้ (ฉันจะเรียกเขาว่า เฮนรี่ เบคอน) ทักมาหาฉันบอกว่าเขาต้องการขายเครื่อง PS5 Digital Edition ที่คู่หมั้นของเขาให้เป็นของขวัญ เนื่องจากมันเป็นเวอร์ชันที่เขาไม่ต้องการ โดยเขาเสนอขายในราคาที่ปกติมาก”

“ตอนแรกฉันไม่เชื่อใจเขา แต่เขาดูจริงใจ เราตกลงกันว่าฉันจะโอนเงินให้ก่อน 50% และจะโอนให้อีก 50% เมื่อได้รับของแล้ว”

“วันเสาร์ หลังจากที่เขาส่งรูปภาพ PS5 มาให้ฉันดู ฉันโอนเงินให้เขา 225 เหรียญ (ราว 7,500 บาท) ผ่าน Apple Pay และให้เขาใช้บริการ Staples ส่งของมาให้ในวันจันทร์”

“พอถึงวันจันทร์ฉันส่งข้อความหาเขาเพื่อถามว่ามีปัญหาในการจัดส่งหรือไม่ เขาตอบว่าไม่มีปัญหา แต่เขาถามว่าเป็นไปได้ไหมที่เขาจะขอเงินอีก 50% ก่อน เนื่องจากลูกสาวของเขาป่วยกะทันหันและต้องการค่ารักษาพยาบาลด่วน”

“ฉันเองก็ป่วยเรื้อรังและทุพพลภาพ จึงเข้าใจในจุดนี้ ฉันบอกเขาว่าฉันสามารถโอนเงินให้ก่อนได้ถ้าเขาส่งภาพถ่ายที่ยืนยันว่าเขาส่งของแล้ว รวมถึงใบเสร็จการจัดส่งสินค้า เนื่องจากหมายเลขติดตามพัสดุจะต้องใช้เวลา 24-48 ชั่วโมงถึงจะติดตามได้จริง”

“เขาส่งรูปภาพใบเสร็จการส่งสินค้าของ Staples มาพร้อมกับหมายเลขพัสดุ ฉันส่งเงินให้เขาอีก 225 เหรียญ เขาบอกว่าจะส่งหมายเลขพัสดุมาให้หลังจากที่เขาได้รับมันแล้ว”

“ฉันพิมพ์ข้อความหาเขาในวันอังคารเพื่ออัปเดต… ปรากฎว่าฉันถูกบล็อก ฉันพยามโทรหาก็ถูกบล็อก ฉันจึงใช้มือถือของสามีติดต่อไปหาเขา แต่เขาไม่รับสาย”

“ฉันโทรหาธนาคารของฉัน โทรหา Apple Pay ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้ ณ จุดนี้ฉันรู้สึกแย่มาก ฉันรู้สึกงี่เง่า อารมณ์เสีย ผิดหวัง และยิ่งอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดด้วย ทั้งหมดคือความเจ็บปวด”

“ตอนบ่ายวันอังคาร ฉันตัดสินใจพิมพ์หาเขาอีกครั้ง บอกเขาว่ามีเวลาถึง 21.30 น. เพื่อคืนเงินให้ฉันหรือไม่ก็ถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย”

“ฉันรายงานการหลอกลวงของเขาไปที่องค์กรต่าง ๆ และเตือนว่าถ้าหากไม่คืนเงิน ฉันสัญญาว่าเขาจะไม่มีวันอยู่อย่างสงบอีกต่อไป”

“เมื่อถึงเวลา 21.30 น. ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันบอกเขาว่ากำลังดำเนินคดีเรื่องนี้ เขาอ่านแล้วก็บล็อกฉัน ตอนนั้นเองที่ฉันรู้ว่าฉันควรทำอะไรต่อไป”

“เขาพยายามเปลี่ยนชื่อทวิตเตอร์ให้แตกต่างกันไป และฉันจะส่งข้อความหาเขาว่าฉันพบเขาและหาเจอเขาเสมอ”

“จากนั้นฉันก็จำได้ว่า เขาส่งรูปที่มีหมายเลขร้าน Staples มาให้ฉัน และการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบก็เริ่มขึ้น”

“ปรากฎว่ามีชื่อ เฮนรี่ เบคอน (นามสมมุติ) เพียงชื่อเดียวเท่านั้นในรัฐแมรีแลนด์ โดยอยู่ในเขตเดียวกับร้าน Staples”

“ชื่อของเขาเชื่อมโยงกับบัญชีทวิตเตอร์ทั้งหมดที่ถูกเปลี่ยน และฉันยังพบอีเมลของเขาอีกด้วย ดังนั้นฉันจึงส่งสิ่งนี้ไปให้เขา”

“จากนั้นเขาก็เปลี่ยนชื่อทวิตเตอร์เป็นชื่อที่เขายังไม่เคยใช้นั่นคือ โรเบอร์โต วิลเลียมส์ (นามสมมุติ) และนั่นคือทั้งหมดที่ฉันต้องการ”

“ฉันสืบต่อไปจนพบทุกอย่างเกี่ยวกับเขา ทั้งสมาชิกครอบครัว อีเมลของพวกเขา เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ การจำนองของเขา รถของเขา มันมีทางเลือก 2 ทาง ณ จุดนี้คือ ยื่นเรื่องนี้ให้ตำรวจหรือจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”

“สำนักงานกฎหมาย PA&P ได้เข้าร่วมแชตแล้ว”

“วิธีที่ฉันหลอกนักต้มตุ๋น ตอนที่ 2”

“ทางเลือกของฉันคือการสร้างอีเมลปลอม ฉันรู้ว่าผู้ชายคนนี้งี่เง่า ฉันรู้ว่าเขาจะไม่สนใจเลยว่าสำนักงานกฎหมายแห่งนี้ใช้บัญชี gmail”

“แน่นอนว่าครอบครัวของเขาทุกคนจะตอบกลับอีเมลที่จริงจังมากจากทีมกฎหมาย PP&P ของฉัน (ที่สร้างขึ้นเอง)”

“ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อมา ฉันได้รับข้อความยาวจากคู่หมั้นที่น่าสงสารของนาย โรเบอร์โต วิลเลียมส์ 3-4 ข้อความ เธอบอกว่า เธอกำลังพาลูกหนีไปจากเขา เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะทำแบบนี้กับใครได้ เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นคนแบบนี้และรู้สึกเสียใจมาก”

“หลังจากนั้น ลองเดาสิว่าใครส่งข้อความมาหาฉัน ? นายหลอกลวงนี่เอง ช่างบังเอิญจริง ๆ”

บริตตานีได้แสดงให้เห็นว่า เขาส่งข้อความมาบอกว่า แฟนของเขาขอให้เขามาเคลียร์เรื่องนี้กับเธอ โดยกล่าวขอโทษเกี่ยวกับความผิดของเขาและจะรับผิดชอบเงินทั้งหมดเอง ทั้งหมดเป็นความผิดของเขาและเธอไม่ควรทำร้ายคนดี ๆ นอกจากนั้นเขายังกล่าวว่าตนเองต้องทะเลาะกับคู่หมั้นเพราะเรื่องนี้อีกด้วย

ในที่สุด ไม่ถึง 5 นาทีต่อมา เธอก็ได้เงินคืนสำเร็จ

“ฉันเตือนชายคนนี้ว่า ถ้าเขาเลือกเส้นทางนี้ ชีวิตเขาจะไม่มีวันสงบสุข  อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ก็ไม่เกี่ยวกับฉันแล้ว”

“ตอนนี้ ฉันบล็อกเขาแล้ว และรายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อน ๆ คู่หมั้นของเขาไม่คบค้ากับเขาอีก พ่อของเขาต้องเป็นทุกข์ และเงินของฉันอยู่ในบัญชีธนาคารของฉันอย่างสงบสุข … จบ”

น่าเสียดายที่นี่เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เหยื่อของการหลอกลวงสามารถตอบโต้มิจฉาชีพเหล่านี้ได้ ในขณะที่ยังมีผู้คนอีกมากมายทั่วโลกโดนมิจฉาชีพเหล่านี้หลอกลวงโดยไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย มันคือปัญหาใหญ่ที่สังคมต้องการความช่วยเหลือ และหวังว่ามันจะค่อย ๆ หมดไปในไม่ช้า

ที่มา : boredpanda | Twitter | เรียบเรียงโดย เพชรมายา