พ่อพบว่าโรงเรียนให้ยาซึมเศร้าลูกชายหลายเดือนโดยไม่ได้บอกเขา

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กฎหมายของหลายประเทศได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อคุ้มครองสิทธิเด็กให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด รวมถึงการดูแลสุขภาพเด็กเองก็เช่นกัน ในบางกรณี เด็กหรือแม้แต่วัยรุ่น สามารถได้รับสิทธิ์ช่วยเหลือได้แม้ว่าจะไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเองก็ตาม ตัวอย่างเช่น หากเด็กป่วยด้วยอาการทางจิตแต่ครอบครัวของพวกเขาปฏิเสธเข้ารับการรักษา

กฎหมายนี้ฟังดูมีประโยชน์อย่างมากสำหรับเด็ก แต่ในทางกลับกัน มันก็ส่งผลเสียได้หากเด็กถูกเข้ารับการรักษา แต่พ่อแม่ไม่ได้รับแจ้งอย่างถูกต้อง เหมือนกับเรื่องราวต่อไปนี้

อีไล โฮลต์ คุณพ่อจากรัฐวอชิงตันเพิ่งเผชิญกับสถานการณ์ที่ลูกชายวัย 15 ปีของเขาได้รับยาต้านอาการซึมเศร้าตลอดทั้งเทอมโดยที่เขาเองไม่รู้มาก่อน เขาเปิดเผยเรื่องนี้ผ่าน TikTok และมันก็กลายเป็นกระแสทันที

ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่ออีไลได้รับโทรศัพท์จากที่ปรึกษาของโรงเรียนโดยบอกว่า ลูกชายของเขาไม่ได้รับยาซึมเศร้าไปหลังจบปีการศึกษา โฮลต์บอกว่าลูกชายของเขาไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า แต่เขากลับค้นพบเรื่องราวที่ไม่คาดคิดมาก่อน

ย้อนกลับไปหลายเดือนก่อน ลูกชายของเขาถูกจิตแพทย์ของโรงเรียนสั่งจ่ายยาต้านอาการซึมเศร้า เป็นผลให้เขาต้องรับประทานยาติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือนโดยคิดว่าพ่อของเขารู้ แต่อีไลกลับไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

“เขาไม่ได้กินยาต้านซึมเศร้านะ คุณกำลังพูดเรื่องอะไรน่ะ ลูกผมไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า” อีไลกล่าวกับปลายสาย

 มี 3 เรื่องที่เขาอยากจะบอกก็คือ ประการแรกหากทางโรงเรียนให้ยาอะไรกับเด็กก็ตาม ถ้าเด็กอยู่กับพ่อแม่ พวกเขาก็ควรรู้

ประการที่สอง ถ้าที่บ้านของเด็กมีปัญหา ครอบครัวไม่อบอุ่น หรือเด็กอาจตกอยู่ในอันตราย อีไลเห็นด้วยที่จะไม่บอกเรื่องนี้กับทางบ้าน

ประการที่สาม โรงเรียนไม่รู้ประวัติทางการแพทย์ของลูกชายเขาเลย จะเกิดอะไรขึ้่นถ้าลูกชายของเขาเกิดแพ้ยาที่แพทย์ให้มาโดยไม่สืบประวัติเด็กเสียก่อน แน่นอนว่าเด็กย่อมไม่รู้ประวัติทางการแพทย์ของตัวเอง

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่อีไลคิดว่า โรงเรียนควรจะแจ้งเขาเรื่องนี้ด้วย

ในขณะเดียวกัน อีไลก็พบว่าภายใต้กฎหมายของรัฐวอชิง แพทย์ในโรงเรียนมีสิทธิ์สั่งจ่ายแก้ต้านอาการซึมเศร้าให้กับเด็กได้ หากเด็กมีครอบครัวไม่สมบูรณ์ และมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีในครอบครัว ซึ่งอีไลระบุว่า “พวกเราสบายดี แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่แจ้งผม”

ส่วนความคิดเห็นของชาวเน็ตก็แตกออกเป็น 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายสนับสนุนอีไลที่ให้ความเห็นว่า ทางโรงเรียนควรแจ้งผู้ปกครองเพราะสุดท้ายแล้ว หากมีปัญหาขึ้นมาผู้รับผิดชอบต่อตัวเด็กก็ต้องเป็นผู้ปกครองอยู่ดี ซึ่งหลายคนสงสัยว่าทำไมถึงมีกฎหมายแบบนี้ขึ้นมาได้

ในขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนก็มองว่า เด็กอาจไม่สบายใจที่ต้องบอกพ่อของเขาเกี่ยวกับอาการที่เขาเป็น และบางครั้งในขณะที่พ่อแม่มองว่าลูก ๆ ของพวกเขาไม่ได้เป็นอะไร แต่บ่อยครั้งที่ลูก ๆ ของพวกเขามีปัญหาและไม่เคยบอกพ่อแม่มาก่อน

แล้วคุณล่ะคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ในสถานการณ์นี้ คุณจะคิดอย่างไร

ที่มา : boredpanda | tiktok | เรียบเรียงโดย เพชรมายา