นักวิทย์ติดคุกฟรี 10 เดือน หลัง AI ระบุว่าเขาเหมือนกับคนร้าย

ในขณะที่เทคโนโลยี AI กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนโลกให้ก้าวไปอีกขั้น ทั้งความล้ำยุคและความทันสมัย แต่เราแน่ใจแล้วหรือไม่ ที่จะฝากทุกอย่างไว้กับ AI ทั้งหมด

นี่คือเรื่องราวของ อเล็กซานเดอร์ สเวตคอฟ นักอุทกวิทยาชาวรัสเซียที่ถูกจับกุมในช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังจากระบบ AI ระบุว่า ใบหน้าของเขาตรงกับภาพสเก็ตช์ของคนร้ายที่ถูกวาดเอาไว้เมื่อ 20 ปีก่อน จากปากคำของพยานคนหนึ่ง

สิ่งที่น่าตกใจก็คือ ใบหน้าของเขามีความตรงกันกับภาพสเก็ตช์เพียงแค่ 55% เท่านั้น

สเวตคอฟ เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานประจำอยู่ที่สถาบันวิทยาศาสตร์รัสเซียด้านชีววิทยาน้ำจืด ต้องกลายเป็นแพะไปใช้ชีวิตในเรือนจำนานกว่า 10 เดือน หลังจากถูกระบุว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆาตกรรมในกรุงมอสโกเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2002

เขาถูกจับกุมในขณะที่กำลังอยู่บนเครื่องบิน หลังจากการเดินทางไปทำงานที่เมืองครัสโนยาสค์ โดยไม่สนใจคำโต้แย้งของนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ที่บอกว่า สเวตคอฟอยู่กับพวกเขา ณ ช่วงเวลาดังกล่าว

สเวตคอฟถูกกล่าวหาว่าเป็นคนก่อคดีร้ายแรงเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2002 เหยื่อคนแรกคือชายที่กำลังเมาที่ตกเป็นเป้าหลังจากมีเหตุทะเลาะวิวาท เหยื่อรายที่สองเป็นหญิงวัย 64 ปี ที่ถูกปล้นในคืนเดียวกัน

ต่อมา หญิงวัยกลางคนกับคุณแม่วัย 90 ปีของเธอก็ตกเป็นเหยื่อ หลังจากคนร้ายอ้างว่าต้องการเช่าอะพาร์ตเมนต์ของพวกเธอ

ผู้สมรู้ร่วมคิดในคดีนี้ถูกจับกุมและชี้ตัวผู้ร่วมก่อเหตุว่าเป็นสเวตคอฟ แต่มีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับคำให้การของเขา เขาอ้างว่าสเวตคอฟเคยเป็นคนไร้บ้านเช่นเดียวกับเขาในมอสโก เป็นคนดื่มจัดและสูบบุรี่วันละครึ่งซอง

แต่ประเด็นคือ สเวตคอฟเป็นคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับปอด รวมไปถึงไม่เคยเป็นคนไร้บ้าน

ผู้สมรู้ร่วมคิดยังจำได้ว่า สเวตคอฟมีรอยสักรูปแหวนบนนิ้วมือและมีรอยสักลายเซลติกบนมือซ้าย แต่ญาติของสเวตคอฟบอกว่า เขาไม่เคยมีรอยสักเลย

ส่วนเพื่อนร่วมงานของสเวตคอฟหลายคนให้การเป็นพยานว่า พวกเขาอยู่่ห่างจากสถานที่เกิดเหตุหลายร้อยกิโลเมตร แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้สนใจพยานทางฝั่งสเวตคอฟแม้แต่น้อย นักอุกวิทยารายนี้ถูกบังคับให้เขียนคำสารภาพ และต้องใช้เวลาอยู่ในเรือนจำนานถึง 10 เดือน

อ้างอิงจากแหล่งข่าวหลายแห่ง แม้ว่าสเวตคอฟจะมีหลักฐานมากมายแต่ทางการกลับเลือกที่จะเชื่อซอฟแวร์ที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์หือ AI ที่พบว่า หน้าตาของนักอุทกวิทยารายนี้ตรงกับลักษณะของคนร้ายประมาณ 55% และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้สเวตคอฟถูกจับเข้าคุก

คดีของสเวตคอฟกลายเป็นหัวข้อข่าวในรัสเซียมาหลายเดือน จนมีการณรงค์ให้ปล่อยตัวเขา เช่นเดียวกับมีข่าวลือว่า วลาดิเมียร์ ปูติน เข้ามาแทรกแซงคดีนี้ ในที่สุด สเวตคอฟก็ได้รับการประกันตัวในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาของเขาก็ยังไม่ได้ถูกเพิกถอนไป และยังต้องต่อสู้ในฐานะจำเลยต่อไปในอนาคค

ปูติกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ปัญญาประดิษฐ์เป็นประเด็นที่ซับซ้อน และหากมีความล้มเหลวเกิดขึ้น ก็จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ทบทวนเพื่อหาข้อสรุปที่เหมาะสมต่อไป”

ที่มา: odditycentral