มีแม่น้ำและทะเลสาบมากมายบนโลกใบนี้ที่มนุษย์ไม่สามารถลงไปแหวกว่ายได้เนื่องจาภายเหตุปัจจัยที่แตกต่างกันไป แต่หนึ่งในแม่น้ำที่อันตรายที่สุดนั่นคือ แม่น้ำ Techa ที่ไหลลงทางฝั่งตะวันออกของเทือกเขาอูราลในประเทศรัสเซีย ที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่น้ำที่มีกัมมันตภาพรังสีมากที่สุดในโลก
ครั้งแรกที่คุณเห็นแม่น้ำแห่งนี้ มันเป็นเหมือนกับแม่น้ำธรรมดาทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคือสถานที่ทิ้งน้ำเสียจากโรงงานแปรสภาพเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วที่มีปริมาณกัมมันตภาพรังสีมากกว่าเชอร์โนบิลถึง 20 เท่า
ของเสียที่ปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีกว่า 80 ล้านตันถูกปล่อยทิ้งลงมาในแม่น้ำแห่งนี้มาตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่มันไม่เคยถูกป่าวประกาศ และไม่มีใครที่รับรู้ถึงเรื่องนี้
“บางครั้งพวกเขาจะติดป้ายเตือนเราไม่ให้ลงไปว่ายน้ำในแม่น้ำ แต่พวกเขาไม่เคยบอกว่าทำไม” ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าว “ช่วงเวลาหลังเลิกงาน เราก็จะไปว่ายน้ำในแม่น้ำ พวกเด็ก ๆ เองก็เช่นกัน”
เป็นเวลาหลายสิบปีที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำไม่เคยรู้เลยว่ามีโรงงาน Mayak ที่ทำการแปรสภาพเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วตั้งอยู่ที่บริเวณต้นน้ำ เนื่องจากมันไม่เคยถูกระบุในแผนที่แถมยังกีดกันไม่ให้ผู้คนเข้ามาใกล้
จนกระทั่งเมื่อ 13 ปีก่อน ทางรัฐบาลได้เริ่มทำการอพยพผู้คนจำนวน 24 ชุมชนที่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงให้ออกห่างจากแม่น้ำแห่งนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ผู้คนหลายพันคนเป็นมะเร็ง และประสบกับความผิดปกติทางโครโมโซมและความพิการแต่กำเนิด
วลาดิเมียร์ สลิฟยัก นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมของรัสเซียกล่าวว่า “ความเห็นของผมคือพวกเขายังคงทิ้งขยะกัมมันตภาพรังสีอยู่ แต่การพิสูจน์เรื่องนี้มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย ยกเว้นแต่ทางโรงงาน Mayak จะออกมายอมรับด้วยตัวเอง”
แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ในระหว่างปี 1949 ถึง 1956 ทางโรงงาน Mayak ได้ทิ้งของเสียประมาณ 76 ล้านลูกบาศก์เมตรลงในแม่น้ำแห่งนี้ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาก็ทราบดีว่าริม 2 ฝั่งแม่น้ำมีผู้คนอาศัยอยู่มากถึง 28,000 คน และพวกเขาใช้แม่น้ำสายนี้ในการดำรงชีวิตเป็นหลัก แต่การอพยพเพิ่งเกิดขึ้นในปี 2008 ซึ่งทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว
ก่อนหน้านั้น 1 ปี มีการศึกษาที่ระบุว่า ประชากรริมฝั่งแม่น้ำ Techa มีอัตราเป็นมะเร็งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของชาวรัสเซีย 3.6 เท่า และมีอัตราบกพร่องทางร่างกายสูงกว่าค่าเฉลี่ย 25 เท่า จากนั้นสมาคมวิจัยรังสียังพบว่า จากประชากรจำนวน 17,435 คนที่เกิดก่อนปี ค.ศ. 1956 มีคนเป็นมะเร็งถึง 1,933 คน และประชากรส่วนใหญ่มี “สตรอนเทียม-90” (Strontium-90) ที่เป็นเป็นไอโซโทปกัมมันตภาพรังสีถูกพบในกระดูกของพวกเขาอีกด้วย
จนถึงช่วงปลายทศวรรษ 1980 ทางการรัสเซียปฏิเสธการมีอยู่ของโรงงาน Mayak หลายครั้ง รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านหลังจากนั้น แต่ในที่สุดพวกเขาก็ไม่อาจหลีกหนีความจริงได้ มีรายงานว่าประชาชนกว่า 450,000 ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติของโรงงาน Mayak ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
ในปัจจุบันทางการรัสเซียประกาศว่าระดับของกัมมันตรังสีในแม่น้ำ Techa ดีขึ้นจนอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ แต่ข้อมูลจากสำนักข่าว AP ระบุว่า รังสีพื้นหลังที่ถูกวัดในแม่น้ำยังคงสูงรังสีพื้นหลังที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ 80-100 เท่า
ในขณะที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำ Techa ที่ยาวกว่า 243 กิโลเมตร ได้มีการติดตั้งป้ายเตือนไม่ให้ผู้คนลงไปว่ายน้ำหลายร้อยแห่งเพื่อไม่ให้ผู้ที่ไม่รู้เรื่องต้องตกเป็นเหยื่อของแม่น้ำสุดอันตรายแห่งนี้อีกต่อไป
ที่มา : odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
