ผู้รอดชีวิตจากเรือไททานิกอ้าง ภูเขาน้ำแข็งไม่เคยทำให้เรือจมลงใต้มหาสมุทร

เราทุกคนต่างทราบกันดีจากในภาพยนตร์ว่า เรือไททานิกจมลงเนื่องจากสาเหตุชนกับภูเขาน้ำแข็ง แต่มีหลักฐานที่ระบุว่า การระเบิดและไฟไหม้ต่างหากคือสาเหตุที่แท้จริงของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ และนี่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์ที่เราเคยรู้จักไปอย่างสิ้นเชิง

Vaghinak Byurat คือหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเรือไททานิก และเขาไม่เคยพูดถึงภูเขาน้ำแข็งแม้แต่นิดเดียว

Vaghinak Byurat คือหนึ่งในกลุ่มไฮโซที่มีการศึกษาสูงจากคอนสแตนติโนเปิล ที่มีแผนการเดินทางไปทำธุรกิจในแถบอเมริกา และนั่นคือเหตุผลที่เขาเดินทางมาบนเรือไททานิกลำนี้

หลังจากเหตุการณ์อันเลวร้ายได้เกิดขึ้น Byurat หนีออกมาจากเรือได้ทันที่จะเห็นเรือจมลงไปต่อหน้าต่อตาตัวเอง แต่สิ่งที่เข้าเผชิญมามันแตกต่างกับสิ่งที่ทุกคนเคยรู้

หลังจากรอดชีวิตมาได้ Byurat ก็มีอายุยืนยาวและบอกเล่าเรื่องราวที่เขารู้เกี่ยวกับการจมของเรือไททานิกให้กับคนอื่นๆ ฟังอยู่บ่อยครั้ง ครั้งหนึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้กับ Chahen Khachatourian ผู้อำนวยการหอศิลป์แห่งชาติของสาธารณรัฐอาร์เมเนีย และถูกนำมาเขียนเป็นหนังสือต่อมาในที่สุด

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็คือ Byurat ไม่เคยพูดถึงภูเขาน้ำแข็งเลยสักครั้ง แต่เขากลับพูดอยู่เสมอว่า การระเบิดต่างหากที่นำไปสู่การจมของเรือไททานิก

ดูเหมือนคำกล่าวอ้างนี้จะไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่เพราะว่า มีพยานอีกหลายปากที่เอ่ยตรงกันเกี่ยวกับการระเบิดภายในเรือที่เกิดขึ้นประมาณ 2-4 ครั้ง

ในหนังสือของ Bill Wormstedt นักเขียนผู้ค้นคว้าเรื่องราวของเรือไททานิกได้กล่าวว่า สิ่งที่เขาเรียนรู้จากการสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิตหลายๆ คน คำกล่าวอ้างของพวกเขาชวนให้เชื่อว่า มันอาจไม่มีภูเขาน้ำแข็งก็เป็นได้ ตัวอย่างคำกล่าวอ้างของพยาน เช่น

ผู้พัน Arthur G. Peuchen ผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส ได้กล่าวว่า เขาได้ยินเสียงระเบิดครั้งหนึ่งแน่ๆ และหลังจากนั้นเรือก็เริ่มจมลง

George Frederick Crowe พนักงานที่อยู่ในเรือกู้ภัย กล่าวในคำให้สัมภาษณ์ของเขาว่า มีการระเบิดเกิดขึ้นและจากนั้น ส่วนท้ายของเรือก็ค่อยๆ จมลง

นอกจากนั้นยังมีนักวิจัยอีกหลายคนที่กล่าวว่า เรือไททานิกจมลงเพราะมีสาเหตุมาจากไฟไหม้

ย้อนกลับในช่วงเวลาเมื่อ 100 ปีก่อน วิศวกรผู้สร้างเรือไททานิกไม่เข้าใจถึงความอันตรายของกระบวนการ อิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) ที่สามารถเปลี่ยนน้ำทะเลไปสู่การระเบิดของก๊าซไฮโดรเจนได้

John Wickman ได้สรุปทฤษฎีนี้ในหนังสือ Titanic, The Hidden Evidence ของเขาว่า ลูกเรือทำผิดพลาดด้วยการจุดไฟให้สว่าง จนส่งผลให้เกิดระเบิดขึ้น โดยเขาระบุว่า การระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงระหว่างเวลา 1:10 น. ถึง 1:20 น. แต่การระเบิดครั้งต่อมา เป็นสาเหตุให้เรือถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนออกจากกัน

ทฤษฎีนี้คล้ายกับที่ Senan Molony นักข่าวผู้ศึกษาเรื่องราวของไททานิกมากว่า 30 ปีพบว่า “ไฟ, น้ำแข็ง และความประมาท” คือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เรือไททานิกจมลง

ทฤษฎีที่ทำให้เรือไททานิกจม ยังไม่ได้จบแค่นี้

ในสารคดีใหม่ล่าสุดของช่อง สมิธโซเนียน ชาแนล ที่มีชื่อว่า Titanic: The New Evidence ที่มีความยาวกว่า 1 ชั่วโมงเต็ม ได้ทำการเปิดเผยภาพถ่ายส่วนตัวของ จอห์น เคมป์สเตอร์ หัวหน้าวิศวกรไฟฟ้าของเรือไททานิก ที่ระบุว่า มีเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นจริง ก่อนที่เรือไททานิกจะออกเดินทางสู่มหาสมุทร

ในสารคดีดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงภาพถ่ายของเรือไททานิกในขณะที่จอดเทียบท่าอยู่ โดยมีหลักฐานคือ ร่องรอยสีดำยาวกว่า 30 ฟุต ที่เกิดจาก “ไฟไหม้ในห้องเก็บถ่านหิน” จนเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายร้ายแรง และทำให้ลำเรือมีความเปราะบางกว่าเดิม

และในบริเวณนั้นเอง ที่เป็นจุดเดียวกับที่ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมเรือล่มครั้งประวัติศาสตร์ขึ้น

นอกจากนั้น ยังมีประเด็นในเรื่องของการใช้วัสดุต่ำกว่ามาตรฐานและคนงานไร้ฝีมือ เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงผู้รับผิดชอบในการสร้างเรือ ถูกกดดันให้สร้างเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในต้นทุนที่จำกัด

และนี่ก็คือเรื่องราวที่กลายเป็นตำนานที่เล่าขานกันมานานกว่า 100 ปี แล้วคุณล่ะ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องราวของไททานิกบ้าง ?

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ