นักวิทยาศาสตร์อ้างว่า ได้ไขปริศนาโบราณเกี่ยวกับกริชที่เป็นของฟาโรห์ตุตันคามุนที่มีอายุมากกว่า 3,400 ปีก่อน โดยกล่าวว่าวัสดุที่ใช้สร้างอาวุธชิ้นนี้อาจมาจากนอกโลก
สิ่งประดิษฐ์ลึกลับนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1925 เพียง 3 ปีหลังจากการค้นพบสุสานที่มีสภาพสมบูรณ์ของฟาโรห์ตุตันคามุนในอิยิปต์ใกล้กับเมืองลูซอร์ในปี 1922
ทีมนักโบราณคดีเข้าไปในสุสานและพบว่ามีอาวุธติดอยู่กับต้นขาขวาขององค์ฟาโรห์ในสภาพมัมมี่ที่สิ้นพระชนม์ด้วยวัย 19 ปี ด้วยสาเหตุที่เชื่อว่าเป็นโรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว
กริชถูกพบว่าอยู่ในฝักทองที่ประดับด้วยลวดลายของดอกลิลลี่ ขนนก และศีรษะของหมาไน พร้อมกับมีดทองอีกอันหนึ่งซึ่งพบอยู่ภายใต้ผ้าห่อบริเวณหน้าท้อง
แต่สิ่งที่เป็นหนึ่งในความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์นั่นคือ ใบมีดดูเหมือนจะถูกหลอมจากเหล็ก ซึ่งเป็นวิทยาการที่ชาวอียิปต์ไม่เคยค้นพบมาก่อนจนกระทั่งเกือบ 500 ปี หลังจากตุตันคามุนสิ้นพระชนม์
ในปี 2016 นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า องค์ประกอบทางเคมีของใบมีดขนาด 13 นิ้วชิ้นนี้ บ่งบอกว่าใบมีดถูกประดิษฐ์ขึ้นอย่างเชี่ยวชาญโดยใช้วัสดุจากอุกกาบาตโลหะที่ตกลงสู่พื้นโลก
และเมื่อเร็ว ๆ นี้ การวิเคราะห์เพิ่มเติมจากทีมงานของสถาบันเทคโนโลยีชิบะของประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยว่า วัตถุดังกล่าวน่าจะถูกสร้างขึ้นนอกอียิปต์โดยสิ้นเชิง โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าวัตถุดังกล่าวมีต้นกำเนิดในเมืองมิทานนิ อารยธรรมอานาโตเลีย
นักวิจัยได้ตีพิมพ์ผลการค้นพบของพวกเขาในวารสาร Meteoritics & Planetary Science เมื่อต้นเดือนนี้ นักวิจัยได้อธิบายว่าพวกเขาทำการิวเคราะห์ด้วยเอ็กซเรย์ของกริชที่ในปัจจุบันตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์อียิปต์แห่งกรุงไคโร
ผลการวิจัยพบว่า ด้ามทองของมันดูเหมือนจะถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยใช้วัสดุที่เรียกว่าปูนปลาสเตอร์มะนาว ซึ่งยังไม่ได้ถูกใช้ในอียิปต์ใน แต่ถูกใช้โดยช่างฝีมือส่วนอื่น ๆ ของโลก
นอกจากนั้น กริชยังถูกสร้างขึ้นโดยใช้เทคนิคอุณหภูมิต่ำ ที่นักวิจัยเชื่อว่าอาจมาจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่อียิปต์ และที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือเมืองมิทานนิของอานาโตเลีย
คำกล่าวนี้สอดคล้องกับบันทึกของชาวอียิปต์โบราณที่ระบุว่า กริชเหล็กพร้อมด้ามทองเป็นของขวัญจากกษัตริย์แห่งมิทานนิถึงอาเมนโฮเทปที่ 3 ปู่ของตุตันคามุน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตุตันคามุนน่าจะได้รับกริชสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน ก่อนที่จะถูกฝังไปพร้อมกับพระองค์เอง
เหล็ก ถือเป็นวัตถุหายากและถือว่ามีค่ามากกว่าทองคำในช่วงยุคสำริด ส่วนใหญ่มองว่าเป็นของประดับตกแต่ง เนื่องจากชาวอียิปต์พบว่าเหล็กถูกทำขึ้นยาก เนื่องจากต้องใช้ความร้อนสูงในการหลอม
ที่มา : ladbible | เรียบเรียงโดย เพชรมายา