ชายหนุ่มหายตัวไปกลางป่า เขียนจดหมายสั่งลาถึงภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์

เรื่องราวที่น่าสนใจนี้เกิดขึ้นกับ คาเดน ลากา หนุ่มนักเดินทางวัย 25 ปีจากรัฐยูทาห์ ผู้หลงใหลในกิจกรรมกลางแจ้งและการเดินป่า แต่หลังจากบ่ายวันหนึ่งที่เขากับครอบครัวเดินทางไปยังถิ่นทุรกันดารในพื้นที่ป่าที่ชื่อว่า Selway-Bitterroot Wilderness ที่ครอบคลุมพื้นที่ของรัฐไอดาโฮและมอนทานา เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เริ่มต้นขึ้น

ในช่วงแรกทุกอย่างล้วนเป็นปกติ มันเป็นทริปที่ทุกคนเดินทางบนหลังม้า จนกระทั่งมีม้าบางตัวเกิดพยศ เขาจึงเสนอว่าจะเดินสำรวจทางไปข้างหน้าก่อนเพียงตัวคนเดียว

แต่โชคร้ายที่จู่ ๆ เขาก็หลงทางกับครอบครัวอยางรวดเร็ว คาเดนคิดว่าเขาเดินทางกลับมายังจุดนัดพบแต่ปรากฎว่าเขาเลี้ยวผิดทาง และเขาก็เริ่มหลงเข้าไปในป่าลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ

หลังจากที่คาเดนหายตัวไป ครอบครัวของเขาก็แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ทันที เรื่องนี้กลายเป็นข่าวอย่างรวดเร็ว แต่พื้นที่ป่าแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าจะได้พบตัวคาเดนในไม่ช้า

หลายชั่วโมงต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ออกค้นหาชายหนุ่มไปทั่ว จากการค้นหาในพื้นที่เล็ก ๆ ก็เริ่มขยายออกไปจนกลายเป็นการค้นหาครั้งใหญ่ เจ้าหน้าที่จำนวนมากใช้วิธีเดินเท้าเข้าไปในป่า ตะโกนเรียกชื่อเขา หรือพยายามมองหาเบาะแสใด ๆ เกี่ยวกับตัวเขา แต่ทุกอย่างกลับดูว่างเปล่า

ในขณะที่ อาร์เดน ภรรยาของเขาที่กำลังตั้งครรภ์และไม่ได้ไปร่วมในทริปนี้ด้วยกำลังรอคอยสามีของเธอด้วยความเป็นห่วง คำพูดสุดท้ายที่เธอบอกกับสามีคือ “มองฉันแล้วพูดนะ สัญญากับฉันว่าคุณจะกลับบ้านมาอย่างปลอดภัย”

เป็นเวลา 5 วันที่ทีมกู้ภัยออกตามหาคาเดนแบบไม่ได้หยุดพัก ในตอนกลางวันพวกเขาจะออกค้นหาไปทีละพื้นที่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนตอนกลางคืนพวกเขาจะตั้งแคมป์ที่มีโคมไฟส่องสว่างเอาไว้เพื่อให้คาเดนสังเกตได้ง่าย

ในที่สุด ช่วงเวลากลางดึกคืนหนึ่ง ทีมภู้ภัยก็ได้รับรายงานจากนักเดินป่า 2 คนที่พบเจอชายหลงป่าในสภาพขาดน้ำและอาหาร และสุดท้ายทุกคนก็พบว่าเขาคือคาเดน ชายที่ทุกคนกำลังตามหา

ดูเหมือนเขาจะเอาชีวิตรอดจากป่าแห่งนี้ได้ราวกับปาฏิหาริย์ คาเดนเล่าว่าเขาเลี้ยวผิดทาง และต้องติดอยู่ท่ามกลางป่าในสภาพอากาศที่โหดร้าย เพราะในขณะที่ช่วงเวลากลางวันมีอากาศที่อบอุ่น แต่ในเวลากลางคืนอุณหภูมิจะลดต่ำลงจนหนาวจัด

การใช้ชีวิตในป่าไม่ใช่เรื่องง่าย เขาใช้ความพยายามจุดไฟด้วยการถูกิ่งไม้นานถึง 15 ชั่วโมง และหลังจากแบตโทรศัพท์ของเขาหมด เขาก็พยายามทำลายมันเพื่อนำมาสร้างประกายไฟ รวมถึงใช้เลนส์โทรศัพท์ของเขาในการจุดไฟอีกด้วย

เขาใช้เวลานอนเพียงคืนละ 3-4 ชั่วโมง และต้องเดินทางบนเส้นทางที่ยากลำบาก ครั้งหนึ่งเขาตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงหายใจฟุดฟิดคล้ายกับเสียงหมี เขาจึงต้องรีบย้ายที่นอนทันที

เย็นวันหนึ่งคาเดนคิดว่าเขาอาจจะไม่รอดชีวิตกลับไปพบกับภรรยา เขาจึงเขียนบันทึกถึงภรรยาโดยกล่าวว่า “ถ้าผมไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ อยากให้รู้ว่าผมรักคุณ ผมรักชีวิตของผมที่ได้อยู่กับคุณ และผมขอโทษที่ผมต้องทิ้งคุณให้กลายเป็นซิงเกิลมัม”

จริง ๆ แล้วคาเดนเริ่มมีความหวังมากขึ้น หลังจากที่เขาเห็นเฮลิคอปเตอร์อย่างน้อย 2 ครั้งบินผ่านเหนือศีรษะ เขาคิดว่าฝันร้ายกำลังจะจบลงเพราะมีคนพยายามออกตามหาเขา แต่โชคร้ายที่ไม่มีใครมองเห็นเขาผ่านต้นไม้ที่หนาทึบ แต่เขาเองก็ไม่ยอมแพ้และพยายามสู้ต่อไป

“ผมตัดสินใจไปทางตะวันออกเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมต้องออกไปจากป่านี้ให้ได้ภายใน 1 เดือนครึ่ง ในใจผมคิดว่าต้องให้เวลาอาร์เดนอย่างน้อย 1 เดือนเพื่อยกโทษให้ผม ก่อนที่ลูกของเราจะลืมตาดูโลก” คาเดนกล่าว

แน่นอนว่าเขาไม่มีอาหารติดตัวมาแม้แต่น้อย สิ่งที่ทำให้เขารอดชีวิตได้คือการกินผลไม้ที่พอจะหาได้ การหาแหล่งน้ำที่ได้จากธรรมชาติ รวมถึงการกินจิ้งหรีดเพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีน ซึ่งเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนี้

ในคืนที่ 5 หลังจากหลงทาง เขาเห็นแสงตะเกียงจากที่ไหนสักแห่งที่อยู่ไกล ๆ เขารีบเดินตามแสงตะเกียงไปและได้พบกับนักเดินป่า 2 คน ซึ่งต่อมาทั้งคู่ได้ช่วยชีวิตเขาและติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่

“ผมรู้สึกตื้นตันใจที่ได้กลับมาอีกครั้งและเพิ่งได้เห็นว่าทุกคนพยายามช่วยผมมากขนาดไหน ผมได้รับความรักและความห่วงใยจากผู้คนมากมาย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักผมก็ตาม” คาเดนกล่าว

โชคดีที่คาเดนสามารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้จากประสบการณ์การเอาชีวิตรอดในป่าที่เขาพอมีติดตัวอยู่บ้าง ไม่เช่นนั้นเรื่องราวนี้อาจไม่ได้จบลงแบบ Happy Ending แบบนี้

ที่มา : boredomtherapy | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ