หมู่บ้านแห่งความมืดไม่เจอแสง 3 เดือน สร้างพระอาทิตย์ขึ้นมาเองจากกระจกยักษ์

ในขณะที่ประเทศไทยเราต้องเผชิญกับแสงแดดจ้าเป็นส่วนใหญ่ตลอดทั้งปี แต่สำหรับบางพื้นที่ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไปโดยเฉพาะหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หุบเขาสูง ตัวอย่างเช่นหมู่บ้านในอิตาลีแห่งนี้ที่ต้องไม่เจอกับแสงแดดเป็นเวลานานหลายเดือน

วิกาเนลลา (Viganella) หมู่บ้านในประเทศอิตาลีที่ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนติดสวิตเซอร์แลนด์ และอยู่ใจกลางธรรมชาติโดยมีเทือกเขาแอลป์ล้อมรอบ หากมองจากภายนอกใคร ๆ ก็คิดว่าการได้อาศัยอยู่ที่นี่ดูราวกับเป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือชาวบ้านกำลังประสบปัญหากับการที่พวกเขาไม่ได้เจอแสงแดดส่องเข้ามาถึงหมู่บ้านเป็นเวลานานถึง 90 วันต่อปีในช่วงฤดูหนาว

การอยู่แบบไม่มีแสงแดดไม่ได้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปเท่านั้น แต่มันยังส่งผลต่อสุขภาพของพวกเขาอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ชาวบ้านต้องประสบกับปัญหาระดับโซโรโทนิน หรือ “ฮอร์โมนตื่นตัว” ในร่างกายที่ลดลง

การขาดโซโรโทนินในร่างกายจะส่งผลเสียหลายอย่างเช่น ความรู้สึกซึมเศร้าและวิตกกังวล การมีระดับโซโซโทนินที่ไม่สมดุลจส่งผลกระทบต่ออารมณ์ได้

นอกจากนั้นการขาดแสงแดดตามธรรมชาติยังส่งผลต่อการนอนหลับ ระดับพลังงานในร่างกาย และอัตราการเกิดอาชญากรรมอีกด้วย

เพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ชาวบ้านตัดสินใจที่จะติดตั้งกระจกยักษ์บนยอดเขา โครงการนี้เริ่มต้นในปี 2006 พวกเขานำแผ่นเหล็กที่วัดได้ 8 x 5 เมตร ขึ้นไปติดตั้งข้างบนภูเขาโดยเป็นตำแหน่งที่แสงแดดสาดส่องลงมา เพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ตรงจุดนั้นให้ส่องลงมาที่หมู่บ้านที่ปกติแล้วจะถูกบดบังด้วยเงาของภูเขาขนาดใหญ่

กระจกดังกล่าวจะสามารถควบคุมได้ด้วยคอมพิวเตอร์ที่สามารถหักเหเส้นทางของแสงอาทิตย์ที่เปลี่ยนไปได้อีกด้วย เพื่อทำให้หมู่บ้านวิกาเนลลาสว่างไสวตลอดช่วงฤดูหนาว

ในขณะที่ ปิแอร์ฟรังโก มิดาลี นายกเทศมนตรีของหมู่บ้านกล่าวว่า การติดตั้งกระจกไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาต้องหาวัสดุที่เหมาะสม ต้องเรียนรู้เทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ อีกทั้งยังต้องหาเงินทุนสำหรับโครงการใหญ่ที่พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการติดตั้งกระจกนี้อยู่ที่ประมาณ 100,000 ยูโร หรือประมาณ 3.8 ล้านบาท แต่โชคดีที่พวกเขาได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหน่วยงานระดับภูมิภาคและธนาคารแห่งหนึ่ง

สำหรับวิกาเนลลาไม่ใช่หมู่บ้านเพียงแห่งเดียวที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ตัวอย่างเช่นเมืองรูคอน (Rjukan) ในประเทศนอร์เวย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มืดมิดที่สุดในโลก ก็ต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีที่คล้ายกันนี้เช่นกัน

และหากคุณคิดว่าไอเดียการติดตั้งกระจกในลักษณะนี้เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นานล่ะก็ คุณคิดผิดถนัด เพราะไอเดียนี้เกิดขึ้นครั้งแรกโดย แซม ไอด์ ตั้งแต่ปี 1913 ซึ่งแซมเข้าใจถึงความสำคัญของแสงอาทิตย์และพยายามสร้างกระจกสะท้อนแสงอาทิตย์มาแล้ว แต่โชคร้ายที่เขาทำไม่สำเร็จ จนกระทั่งผ่านมานานกว่าร้อยปี ไอเดียนี้ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้งในศตวรรษที่ 21

ที่มา : | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ