Villa Aurora เป็นบ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางกรุงโรมที่ประกอบไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังบนเพดานที่เป็นผลงานของ การาวัจโจ จิตรกรสมัยบาโรกคนสำค้ญของประเทศอิตาลีในศตวรรษที่ 17 ที่ทำให้บ้านหลังนี้ได้ชื่อว่าเป็นบ้านที่มีราคาแพงที่สุดในโลก
บ้านเก่าแก่ในสมัยศตวรรษที่ 16 หลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 2,700 ตารางเมตร โดยตั้งอยู่ใกล้ Via Veneto หนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงโรม รวมถึงจตุรัส Piazza di Spagna และ Porta Pinciana ประตูกำแพงที่เป็นแลนด์มาร์กแห่งประวัติศาสตร์ของอิตาลี เรียกได้ว่าบ้านหลังนี้มีทำเลที่ดีสุด ๆ
แต่เดิมที บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักสำหรับล่าสัตว์ของครอบครัวขุนนางตระกูลลูโดวิซี ที่เป็นทั้่งนักการทูต ผู้อุปถัมภ์ศิลปะ หรือแม้แต่พระสันตะปาปา ก่อนที่ในปัจจุบัน มันกำลังถูกขายทอดตลาดในราคาที่สูงมากจนยากที่จะหาผู้ซื้อได้
“คุณต้องเป็นอภิมหาเศรษฐี การเป็นเศรษฐีอย่างเดียวไม่พอสำหรับบ้านหลังนี้” เจ้าหญิงริตา บงคอมปันยี-ลูโดวิซี เจ้าของบ้านคนปัจจุบันกล่าว
“ต้องเป็นคนที่มีเงินหนามากจนไม่สนว่าจะต้องจ่ายเงินหลักแสนไปกับเรื่องน้ำรั่วหรืออื่น ๆ”
เจ้าหญิงริตาในวัย 72 ปี เป็นภรรยาคนที่สามของเจ้าชายนิโคโล ลูโดวิซี บงคอมปันยี ซึ่งตอนนี้เธอกำลังต่อสู้ทางกฎหมายกับลูกชาย 3 คนจากการแต่งงานครั้งแรกของเจ้าชายเรื่อง Villa Aurora เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายไม่อาจแบ่งทรัพย์สินกันได้อย่างลงตัว ดังนั้น บ้านหลังนี้จึงต้องถูกนำมาประมูลเพื่อนำเงินมาแบ่งกัน แต่การประมูลบ้านที่แพงที่สุดในโลกไม่ใช่เรื่องง่าย
ย้อนกลับไปในการประมูลครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ราคาที่ถูกตั้งไว้สำหรับ Villa Aurora คือ 471 ล้านยูโร หรือประมาณ 17,800 ล้านบาท ถึงแม้ว่าบ้านหลังนี้จะมีคุณค่ามหาศาลทางประวัติศาสตร์ แต่ก็ไม่มีใครที่ยื่นประมูลในครั้งนั้น
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น สิ่งที่ทำให้บ้านหลังนี้มีคุณค่าขึ้นอย่างมากนั่นคือผลงานจิตรกรรมที่อยู่บนเพดานของบ้าน ที่เป็นของการาวัจโจ ซึ่งคาดว่าแค่ภาพวาดเพียงอย่างเดียวก็มีมูลค่ามากถึง 310 ล้านยูโร หรือประมาณ 11,700 ล้านบาทเข้าไปแล้ว โดยผลงานดังกล่าวถูกวาดขึ้นในปี ค.ศ. 1597 และถูกค้นพบในช่วงทฤวรรษ 1960
ต่อมาในเดือนเมษยน การประมูลครั้งที่ 2 ก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับราคาบ้านที่ลดลงราว 20% ซึ่งจะเหลือราคาประมาณ 376 ล้านยูโร หรือประมาณ 14,240 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่มีใครยื่นประมูล เพราะทุกคนต่างรู้ว่าเจ้าของบ้านกำลังร้อนเงิน และราคาของมันอาจตกลงมาอีกในการประมูลครั้งต่อไป
ในขณะที่เจ้าหญิงริตาได้ขอให้ทางรัฐบาลอิตาลีซื้อบ้านหลังนี้และอนุรักษ์มันไว้ ซึ่งมีประชาชนชาวอิตาลีต่างลงชื่อสนับสนุนมากถึง 40,000 รายชื่อ แต่ถึงแม้ราคาของมันจะลดลงอย่างมาก รัฐบาลอิตาลีก็อาจต้องคิดหนักกับการใช้งบประมาณของกระทรวงวัฒนธรรมที่มากมายมหาศาลอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
ที่มา: odditycentral