หินก้อนนี้ถูกคนขับรถเลี้ยวขึ้นมาเกยนับสิบ ราวกับว่ามันล่องหน จนมีเฟสเป็นของตัวเอง

ย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้ว ลานจอดรถแห่งหนึ่งบริเวณเขตถนน W Maple ทางตะวันตกของเมืองโอมาฮา ในรัฐเนบรัสกา เป็นสถานที่ธรรมดา ๆ ที่ไม่มีใครสนใจ แต่ก็เหมือนกับลานจอดรถทั่ว ๆ ไปที่มักจะมีปัญหาเล็ก ๆ น้อยที่เกิดจากความเห็นแก่ตัวของผู้ขับขี่รถยนต์

แต่ลานจอดรถแห่งนี้มีปัญหาคือ ผู้ขับขี่รถยนต์มักขับรถเลี้ยวตัดหัวมุมของเกาะกลางทับขึ้นมาบนพื้นหญ้า จนเกิดความเสียหายอยู่เป็นประจำ ถึงแม้จะมีการนำก้อนหินก้อนเล็ก ๆ มาวางแทนพื้นหญ้าบริเวณหัวมุมก็ไม่อาจแก้ปัญหาได้ จนในที่สุด เจ้าของสถานที่ดังกล่าวจึงหาทางออกด้วยการนำหินก้อนใหญ่มาวางเอาไว้ เพื่อไม่ให้ใครขับรถขึ้นมาได้อีก

แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น เพราะยังมีรถที่พยายามขับตัดหัวมุมนี้อีกเช่นเคย ราวกับว่าไม่เคยมีก้อนหินก้อนนี้อยู่บนโลก

สาเหตุอาจเป็นเพราะ รถของพวกเขาเป็นรถจี๊บที่มีความสูง จึงไม่เห็นก้อนหินก้อนนี้ก็เป็นได้

แต่นั่นไม่ใช่เหตุผล เพราะรถเก๋งธรรมดา ๆ ก็ขึ้นมาปีนก้อนหินก้อนนี้เป็นว่าเล่น

คันแล้วคันเล่าที่ต้องมาเกยอยู่บนหินก้อนนี้ เนื่องจากเหลี่ยมมุมของมันทำให้รถที่ขับขึ้นมาต้องไปค้างคาอยู่บนนั้น

จนหินก้อนนี้มีชื่อเป็นของตัวเองว่า W Maple Ohama Rock

แค่เพียงไม่นาน ก็มีชาวเน็ตคนหนึ่งสร้างโปรไฟล์เฟสบุ๊คที่มีชื่อก้อนหินก้อนนี้ขึ้นมา

แต่เนื่องจากเฟสบุ๊คไม่อนุญาตให้สร้างโปรไฟล์ที่ไม่ใช่ตัวคนจริง ๆ ประกอบกับมีคนแอดเพื่อนเข้ามาเป็นจำนวนมาก เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนเป็นกลุ่มที่ชื่อ W Maple Ohama Rock เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของหินก้อนนี้ให้กับคนอื่น ๆ ได้เข้ามาชมกัน

ถ้ามีคนขับปีนหินก้อนนี้เพียงแค่ 2-3 คัน มันอาจเป็นเรื่องปกติ

แต่ปรากฏว่ามีผู้ขับขี่รถยนต์เป็นสิบ ๆ คันที่ต้องมาเจอชะตากรรมอันเลวร้ายกับหินก้อนนี้

ด้วยความมหัศจรรย์ของหินยักษ์ล่องหนนี้ ทำให้นักข่าวถึงกับต้องมาทำข่าวเลยทีเดียว ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ขนาดของมันคือใหญ่มาก ๆ (แต่ด้วยมุมกล้องอาจจะดูใหญ่ไปนิดนึง)

ส่วนความเห็นของชาวเน็ตก็มีตั้งแต่ต่อว่าคนขับ “ตาบอดกันหรือเปล่า ขับชนไปได้ยังไงหินก้อนใหญ่ขนาดนี้”

“น่าเศร้านะ คนพวกนี้มีใบขับขี่ได้ยังไง”

“บริษัทรถลากจูงถูกใจสิ่งนี้”

ชาวเมืองที่รู้ข่าวต่างก็ผ่านมาเซลฟี่กับหินมหัศจรรย์ก้อนนี้กันอย่างคับคั่ง

จนหินก้อนนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กของเมืองไปเสียแล้ว

ถ้าเรื่องนี้เกิดที่เมืองไทย อาจกลายเป็นความเชื่อและถูกร่ำลือไปถึงความอาถรรพ์ของหินก้อนนี้ จนมีดอกไม้ธูปเทียนและผ้าสามสี จนสุดท้ายก็ไม่มีรถคันไหนกล้าไปเฉียดอีกก็เป็นได้

ที่มา : boredpanda | Facebook | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ