แก๊งแฟนเก่านับ 10 คน รวมตัวกันมาถือป้ายเพื่อพังงานแต่งเจ้าบ่าว

ถ้าคุณเคยเป็นแฟนเก่าของใครบางคน และเขาคนนั้นกำลังจะแต่งงานไปมีความสุขกับคนรักใหม่ คุณจะทำอย่างไร แน่นอนว่าตามปกติแล้วเราคงไม่ไปยินดียินร้ายอะไร แต่สำหรับบางคนอาจคิดว่าการตามราวีให้ถึงที่สุดคือคำตอบ เช่นเดียวกับเรื่องราวต่อไปนี้

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ แขกผู้มาร่วมงานแต่งงานหนึ่งในหมู่บ้านเหิงตี้ มณฑลยูนาน ประเทศจีน ต่างต้องตกตะลึงกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อมีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งประมาณสิบคนมารวมตัวกันนอกสถานที่จัดงานแต่งพร้อมกับป้ายสีแดงขนาดใหญ่ที่มีข้อความว่า “เราเป็นแฟนเก่าของ เฉิน ซ่ง และวันนี้เราจะทำลายคุณ”

ในตอนแรก แขกที่มาร่วมงานคิดว่านี่คือการแกล้งกันหรือเล่นตลกกันเองภายในงาน แต่สถานการณ์เริ่มตึงเครียดมากขึ้นจนสุดท้าย ทุกคนต่างได้รู้ว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และผู้หญิงเหล่านั้นก็คือแฟนเก่าของนายเฉินที่ต้องการมาทำลายวันสำคัญของเขา

วิดีโอดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในจีนอย่างรวดเร็ว โดยแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงกลุ่มนี้มายืนอยู่อย่างเงียบ ๆ ฝั่งตรงข้ามของงานโดยถือป้ายสีแดงขนาดใหญ่ให้ทุกคนเห็น

มีแขกบางคนเดินเข้าไปหาผู้หญิงกลุ่มนี้เพื่อถามพวกเธอว่ามาทำอะไร จนกระทั่งถึงจุดหนึ่ง เจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ตัดสินใจเข้าไปเผชิญหน้ากับพวกเธอทั้งหมด

ที่น่าสนใจก็คือ เจ้าบ่าวยอมรับว่าเขาเคยทำตัวไม่ดีกับอดีตแฟนสาวบางคนมาก่อนหน้านี้ แต่เขาอ้างว่าตนเองโตขึ้นและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแย่ ๆ หมดแล้ว

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าภรรยาและพ่อตาแม่ยายจะไม่พูดคุยกับเขา จนกว่าจะได้รับคำอธิบายเป็นที่น่าพอใจ

“มันทำให้ผมอายมาก” นายเฉินกล่าว “ตอนนี้ภรรยาที่ผมเพิ่งแต่งงานด้วยและครอบครัวของเธอก็ไม่พอใจผม”

“ตอนสมัยวัยรุ่น ผมเด็กมาก และผมก็ทำร้ายผู้หญิงหลายคน” นายเฉินกล่าว พร้อมเสริมว่าเขารู้สึกเสียใจกับพฤติกรรมในอดีตของตนเอง และแนะนำให้ผู้ชายคนอื่นปฏิบัติกับผู้หญิงด้วยความเคารพ

“คุณต้องซื่อสัตย์กับแฟนของคุณ ไม่ใช่นอกใจเธอ ถ้าในอนาคตเธอตัดสินใจระบายความคับแค้นใจออกมา คุณก็จบ”

นี่คือวิดีโอส่วนหนึ่งจากงานดังกล่าวที่กลายเป็นกระแสในช่วงที่ผ่านมา

ส่วนกระแสบนโลกออนไลน์ของชาวเน็ตในจีนต่างเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกัน โดยไม่มีใครเห็นใจนายเฉินแม้แต่น้อย

“ดั่งสุภาษิตที่ว่า… เสือดาวมิอาจเปลี่ยนลายจุดตนเองได้” ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าว

“เจ้าสาวต้องขอบคุณทีมงานแฟนเก่า ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะหย่ากับเขาทันที” ชาวเน็ตอีกคนเสริม

ที่มา: odditycentral