คนโบราณเขาทำอะไรแปลกๆ กัน ในแบบที่คนปัจจุบันไม่เข้าใจ

ด้วยปัจจัยทางด้านความเชื่อ ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการด้านต่างๆ ทำให้คนในอดีตมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่แปลกแตกต่างไปจากคนในปัจจุบันอยู่มากพอสมควร บางสิ่งเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงได้ทำอะไรแบบนั้น ซึ่งวันนี้เพชรมายาจะขอพามาชมสิ่งแปลกๆ ที่คนโบราณทำ แต่คนในยุคปัจจุบันอย่างเราอาจไม่เคยรู้มาก่อน

1. นอนหลับ 2 รอบ

ชาวยุโรปในสมัยยุคกลางมีการนอนที่แตกต่างจากคนยุคปัจจุบัน โดยพวกเขาจะนอนหลับ 2 รอบ การนอนรอบแรกคือเริ่มจากหลังพระอาทิตย์ตกดินและจะไปตื่นตอนประมาณเที่ยงคืน ซึ่งพวกเขาจะตื่นขึ้นมาทำสิ่งต่างๆ เช่น สวดมนต์ อ่านหนังสือ ทำงานบ้าน หรือใช้เวลาอยู่กับครอบครัว อยู่ราวๆ 2-3 ชั่วโมง ก่อนที่จะเริ่มนอนหลับรอบที่ 2 จนไปถึงพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า

2. นาฬิกาปลุกมนุษย์

ในสมัยที่มนุษย์เรายังไม่มีนาฬิกาปลุก ตั้งแต่ในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 จนถึงกลางทศวรรษที่ 1950 ยังมีอาชีพรับจ้างปลุกผู้คน โดยพวกเขาจะใช้ไม้ที่มีความยาวไปเคาะบริเวณหน้าต่างห้องนอนชั้น 2 หรืออีกวิธีคือการใช้หลอดพ่นเมล็ดถั่วไปที่หน้าต่าง ส่วนคำถามก็คือ ใครล่ะที่เป็นคนปลุกคนรับจ้างปลุกเหล่านี้ให้ตื่นขึ้นมาก่อน คำตอบก็คือ พวกเขาแทบไม่ได้นอนก่อนจะมาทำงานปลุกคนอื่นนั่นเอง

3. เด็กผู้ชายในชุดเดรส

ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 16 จนถึงราวๆ ปี 1920 ถือเป็นเรื่องปกติที่เราจะเห็นเด็กผู้ชายตัวน้อยๆ อายุระหว่าง 4-8 ขวบ แต่งตัวในชุดเดรสแบบผู้หญิง เหตุผลหลักของการแต่งตัวแบบนี้ก็คือ ราคาเสื้อผ้าที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับชุดเดรสสามารถสวมใส่ได้ง่ายแม้ว่าเด็กจะตัวโตขึ้นก็ตาม ซึ่งวัฒนธรรมแบบนี้ก็ลามไปถึงชนชั้นสูงอีกด้วย อย่างเช่นในรูปภาพด้านบนจะเห็นได้ว่า ลูกชายของจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย ก็ให้ลูกชายตนเองแต่งตัวในชุดเดรสเหมือนกับบรรดาพี่สาว

4. ชอฟีนส์ (Chopines)

นี่คือหนึ่งในแฟชั่นที่แปลกที่สุดในอดีตก็ว่าได้ รองเท้าที่มีความสูงถึง 50 ซม. หรือราวๆ 20 นิ้วเหล่านี้ มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ยุคเรเนสซองส์ และเฟื่องฟูอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 17 เหตุผลที่หญิงสาวผู้มีอันจะกินมักจะสวมรองเท้าสูงๆ แบบนี้ก็เพื่อทำให้ตัวเองดูสง่างาม ซึ่งมักจะสวมพร้อมกับชุดเดรสยาวคลุมลงมาถึงข้อเท้า แน่นอนว่าการสวมรองเท้าชอฟีนส์จะต้องใช้คนรับใช้ช่วย

5. เจาะเลือดรักษาทุกโรค

เป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่ 2,000 ปีก่อน จนกระทั่งมาถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 การเจาะเลือดออกมาจากร่างกาย เป็นสิ่งที่แพทย์ในอดีตใช้รักษาโรคชนิดต่างๆ ครอบจักรวาล ไม่ต่างจากการกินยาในยุคปัจจุบัน แน่นอนว่ามันไม่ได้ช่วยให้ผู้ป่วยหาย แต่กลับจะทำให้อาการของผู้ป่วยบางโรคแย่ยิ่งกว่าเดิม

6. สุขอนามัยที่แย่มาก

บางประเทศในสมัยยุคกลาง ผู้คนมีความเชื่อแปลกๆ ว่า น้ำจะนำพาอาการเจ็บป่วยมาสู่ผู้คน แถมยังเรียกพวกแมลงปรสิตอย่าง ไร โลน เหา ว่าเป็น “ไข่มุกของพระเจ้า” และหนึ่งในผู้ที่มีความเชื่อแปลกๆ นี้ก็คือ พระราชินีอิซาเบลที่ 1 แห่งคาสตีล ที่มีความภาคภูมิใจว่า ตลอดชีวิตของเธอได้อาบน้ำเพียงแค่ 2 ครั้งเท่า นั่นคือตอนเกิดและก่อนแต่งงาน อ้างอิงจากบันทึกของขุนนางคนหนึ่งที่เคยพูดถึงความสกปรกของมือและเล็บของเธอ ส่วนราชินีได้ตอบเขาว่า “โอ้ อยากให้เจ้าได้เห็นเท้าของข้าจัง”

7. ภาพถ่ายคนตาย

ถือเป็นประเพณีแปลกๆ ของผู้คนในช่วงศตวรรษที่ 19 เพราะหลังจากกล้องถ่ายรูปได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา มันไม่ได้เอาไว้ถ่ายเฉพาะคนเป็นเท่านั้น บรรดาญาติๆ ของคนตาย ที่ต้องการเก็บพวกเขาไว้ในความทรงจำ ก็จับศพเหล่านั้นมาแต่งหน้าแต่งตัว เอามานั่งอยู่ในเฟรมด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติที่สุด ส่วนดวงตาของคนตายที่ปิดอยู่ก็จะถูกวาดดวงตาลงไปบนเปลือกตา ให้เหมือนว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ให้ได้มากที่สุด

8. กัมมันตรังสีมีประโยชน์

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กัมมันตรังสีได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และมันถูกใช้ไปในทุกวงการไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง อาหาร และเครื่องดื่ม ที่มักจะอุดมไปด้วยเรเดียมและทอเรียม ธาตุกัมมันตรังสีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์

หนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายจากกัมตรังสีเหล่านี้ก็คือ เอเบน ไบเยอร์ นักกีฬาผู้มีชื่อเสียงที่เสียชีวิตจากการดื่มยาน้ำ Radithor ที่มีธาตุเรเดียมเข้าไปจำนวนมาก โดยหนังสือพิมพ์ วอลสตรีท เจอร์นัล ได้พาดหัวเหตุการณ์อันน่าเศร้านี้ว่า “น้ำเรดียมยังคงใช้ได้ดี จนกระทั่งขากรรไกรของเขาหลุดออกมา”

9. เฮโรอีนแก้ไอ

ไม่ใช่แค่กัมมันตรงสี แต่ยาเสพติดที่รุนแรงอย่างเฮโรอีนก็ถูกพิจารณาเป็นทางเลือกของมอร์ฟีน และมันถูกขายในร้านขายยาทั่วไปโดยมีสรรพคุณเป็นยาแก้ไอ ที่สำคัญมันเป็นยาแนะนำสำหรับเด็กเล็กอีกด้วย จนกระทั่งภายหลังมีการค้นพบว่ามันเป็นอันตรายและถูกห้ามใช้ได้ปี 1924

10. สูบบุหรี่บนเครื่องบิน

เมื่อประมาณ 50-60 ปีก่อน กฏระเบียบบนเครื่องบินยังไม่เคร่งครัดเท่าปัจจุบัน การสูบบุหรี่บนเครื่องบินถือเป็นสิ่งที่กระทำได้ และผู้คนที่สูบบุหรี่ก็สูบกันอย่างสบายใจโดยไม่สนใจผู้โดยสารคนอื่นๆ ส่วนปัจจจุบัน การสูบบุหรี่เป็นเครื่องบินเป็นเรื่องต้องห้าม

11. รถอาบน้ำริมหาด

การเกิดเป็นผู้หญิงในช่วงศตวรรษที่ 18-19 ก็มีชีวิตที่ลำบากไม่น้อยเวลาที่ไปเล่นน้ำทะเล เพราะพวกเธอไม่สามารถอาบน้ำริมชายหาดได้ ดังนั้น รถอาบน้ำแบบพิเศษจึงถูกสร้างขึ้นและถูกลากลงไปอยู่ในทะเล เพื่อให้พวกเธออาบน้ำได้อย่างสบายใจ โดยที่ไม่มีใครแอบมองได้ หรือไม่เช่นนั้นก็มักจะถูกสร้างไปอยู่ในที่ห่างไกลจากผู้ชาย

12. ใช้หินแทนกระดาษชำระ

มีรายชื่อสิ่งของมากมายที่คนโบราณใช้แทนกระดาษชำระ ไม่ว่าจะเป็นใบไม้ ฝักข้าวโพด กะลามะพร้าว ขนแกะ ผ้า ฟองน้ำ หรือแม้แต่น้ำเปล่า แต่สำหรับชาวกรีกโบราณเป็นพวกที่สร้างความประหลาดใจให้กับเรามากที่สุด เพราะพวกเขาเลือกที่จะใช้ก้อนหิน ก้อนกรวด หรือเศษเครื่องปั้นดินเผา แค่คิดก็เสียวก้นแล้ว

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา