เหตุผลเหล่านี้พิสูจน์ว่า ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่พิเศษที่สุดในโลก

ถ้าพูดถึงประเทศที่มีเอกลักษณ์และน่าจดจำแห่งหนึ่งบนโลกใบนี้ก็คือประเทศออสเตรเลีย เพราะนอกจากจะเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาลแล้ว ก็ยังมีสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ส่วนจะมีอะไรบ้าง วันนี้เพชรมายาขอพาทุกท่านไปรู้จักกับออสเตรเลียให้มากขึ้นกันดีกว่า

1. ป้ายตรวจวัดค่ารังสี UV ตามท้องถนน

ชาวออสเตรเลียรู้วิธีที่จะปกป้องผิวของตนเองจากแสงแดด แน่นอนว่าในประเทศที่ร้อนตับแตกยิ่งกว่าเมืองไทยย่อมมีสิ่งที่ช่วยให้พวกเขาไม่ถูกแดดแผดเผา และหนึ่งในนั้นก็คือป้ายที่ใช้ค่ารังสี UV ว่าตอนนี้แดดแรงขนาดไหนแล้ว นั่นทำให้คุณรู้ว่าควรหลีกเลี่ยงแสงแดดหรือเปล่า และคุณควรใช้ครีมกันแดดระดับไหนเพื่อให้เหมาะกับความรุนแรงของแดดตอนนี้

2. ผักผลไม้ที่หน้าตาไม่สวย

คุณอาจชินกับการไปเลือกซื้อผักผลไม้แล้วต้องเลือกหยิบแต่ผลที่มันดูดี ใครที่มีประสบการณ์เลือกเป็นก็จะได้ของดีไป เหลือแต่ของไม่สวยรอให้คนอื่นมาหยิบต่อ แต่ในออสเตรเลีย คุณสามารถซื้อผักผลไม้ที่ไม่สวยได้ในราคาที่ต่ำกว่า และในอีกมุมหนึ่งก็ทำให้เกษตรไม่ต้องทิ้งทำลายผักผลไม้ที่หน้าตาแย่ๆ แต่สามารถส่งไปขายได้ในราคาที่ต่ำกว่านั่นเอง แถมรสชาติความอร่อยก็ไม่แตกต่างกันอีกด้วย

3. มีแต่รถไฟฟ้าบนดิน ไม่มีรถไฟใต้ดิน

รถไฟฟ้าในออสเตรเลียอาจจะหายากกว่าประเทศอื่นๆ สักเล็กน้อย และมันก็มีแต่วิ่งบนพื้นดินเท่านั้น ไม่มีรถไฟใต้ดิน ส่วนบัตรโดยสารจะใช้ได้ตามระบบช่วงเวลาที่กำหนดไว้ นั่นคือคุณสามารถใช้ได้แบบ 2 ชั่วโมง หรือตลอดทั้งวัน ขึ้นอยู่กับประเภทของบัตร และจะมีชาวออสซี่แค่ 1 ใน 10 เท่านั้นที่ใช้รถเมล์หรือรถไฟฟ้า ส่วนอื่นๆ นอกจากรถยนต์ส่วนตัวแล้ว ที่เหลือจะชอบปั่นจักรยานหรือเดินมากกว่า

4. รูปลั๊กแบบพิเศษ

ดูเหมือนปลั๊กเหล่านี้จะมีให้บริการเฉพาะผู้คนจากนิวซีแลนด์ นิวกินี และฟิจิเท่านั้น ส่วนนักท่องเที่ยวต้องซื้อหัวแปลง กระแสไฟฟ้าของที่นี่คือ 230 โวลต์ และมีสวิตช์ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย

5. เวจีไมต์ (Vegemite)

เวจีไมต์ คืออาหารประจำชาติของออสเตรเลีย โดยเป็นครีมเนื้อสีดำอมน้ำตาล ที่มีรสเค็มนำ ทำมาจากผักนานาชนิด ยีสต์ ผสมกับมอลต์ เป็นอาหารที่ชาวออสซี่ชอบกันมาก มีติดบ้านกันทุกครัวเรือน โดยมักกินคู่กับขนมปังและคุกกี้

6. ตำนานโคอาล่ากินเนื้อ

ในความคิดของคุณ โคอาล่าเป็นสัตว์เชื่องช้า นอนขี้เกียจกินใบยูคาลิปตัสอยู่บนต้นไม้ แต่ในตำนานเรื่องเล่าของชาวออสซี่ มีการพูดถึงโคอาล่าที่กินเนื้อสัตว์เป็นอาหาร โคอาล่าเหล่านี้จะมีขนาดใหญ่ ก้าวร้าว อาศัยอยู่บนต้นไม้ และพร้อมจะโจมตีคนที่เดินผ่านไปผ่านมาด้วยการกระโดดลงไปที่ศีรษะ โดยชาวออสซี่เรียกพวกมันว่า Drop Bear ถ้าเปรียบกับสัตว์ในตำนานบ้านเราก็เป็นประเภทเสือสมิง ที่เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาอะไรแบบนั้น

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว โคอาล่าก็ยังเป็นสัตว์กินใบไม้ พวกมันอาจมีช่วงอารมณ์ไม่ดีและวิ่งไล่คนบ้าง แต่มันไม่ล่ามนุษย์แน่นอน

7. เรตติ้งสุขภาพ (Health Star Rating) บนซองอาหาร

คุณจะทราบได้อย่างไรว่าอาหารที่คุณกินนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพหรือเปล่า โดยทั่วไปแล้วเราก็มักจะคิดคำนวณปริมาณแคลอรี่ น้ำตาล โซเดียม ไขมัน ตามที่ระบุไว้ในฉลากอาหารแต่ละชนิด แต่สำหรับแพ็กเกจอาหารในออสเตรเลีย ได้มีการจัดเรตติ้งสุขภาพของกินชนิดต่างๆ ตัวอย่างที่เห็นในภาพด้านบนคือ ของกินชนิดนี้ได้คะแนนเพียงแค่ 0.5 เท่านั้นจาก 5 ดาวเต็ม

8. ไม่ถอยหลัง

นกอีมูและจิงโจ้ ถือเป็นสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของออสเตรเลีย เนื่องจากเป็นสัตว์พื้นเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และพวกมันยังเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าอีกด้วย เนื่องจากพวกมันเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถเดินถอยหลังได้ง่ายๆ นั่นเอง

9. กระรอกเป็นสัตว์หายาก

สำหรับผู้คนทั่วโลก จิงโจ้ นกอีมู และหนูยักษ์คาปิบารา เป็นสัตว์แปลกใหม่หายาก แต่นั่นตรงกันข้ามกับชาวออสซี่ เพราะพวกเขาจะตื่นเต้นมากกว่าที่ได้เห็นกระรอก มันยากที่จะเชื่อเพราะออสเตรเลียคือดินแดนแห่งสัตว์นานาชนิด แต่สำหรับกระรอกนั้นไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ เนื่องจากพวกมันต้องเจอกับพอสซัมพื้นเมือง จนสูญพันธ์ไปเกือบหมด

10. คริสต์มาสที่ไม่เหมือนที่อื่น

คุณอาจสับสนกับฤดูกาลในออสเตรเลีย เพราะในฤดูร้อนของออสเตรเลียจะเริ่มต้นในเดือนธันวาคม และฤดูหนาวจะเริ่มต้นในเดือนมิถุนายน นั่นหมายความว่า ในขณะที่ชาวออสเตรเลียกำลังฉลองฤดูหนาวกัน คนอื่นๆ จากทั่วโลกอาจจะกำลังร้อนตับแตกอยู่ แต่ในขณะที่คนอื่นๆ ฉลองคริสต์มาสท่ามกลางลมหนาวและหิมะ ชาวออสซี่ก็กำลังเพลิดเพลินกับการอาบแดดอยู่ริมชายหาดเช่นกัน

11. นกเลียนแบบเสียง

สำหรับประเทศไทยเอง เราอาจคุ้นเคยกับนกที่เลียนแบบเสียงกันเป็นอย่างดี และในประเทศออสเตรเลียเองก็มีนกที่มีความสามารถนี้เช่นกัน มันมีชื่อว่า Lyrebird นกหางที่มีความโดดเด่นตรงหางที่ยาวสลวยและสามารถเลียนเสียงต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น เสียงเลื่อยไฟฟ้า เสียงเครื่องยนต์ เสียงนาฬิกาปลุก เสียงปืน เสียงกล้องถ่ายรูป เสียงริงโทนมือถือ และอื่นๆ อีกมากมาย

12. เมือง 1770 (Seventeen Seventy)

ในออสเตรเลีย มีเมืองที่ถูกเรียกชื่อว่า 1770 ที่ตั้งอยู่ในรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งชื่อของเมืองนี้ถูกตั้งขึ้นตามปี ค.ศ. ที่ เจมส์ คุก เดินทางมาสำรวจทางฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งชื่อเดิมของเมืองนี้คือ ราวด์ ฮิลล์ (Round Hill) ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนเป็น 1770 ในภายหลังเพื่อต้องการเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ และถึงเมืองนี้จะเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ก็มีพื้นที่ป่าไม้และพืชพันธุ์ที่ถูกเก็บรักษาไว้มากที่สุดอีกด้วย

13. บ้านเกิดของคำว่า “เซลฟี่”

ในปี 2013 ชาวโลกต่างก็รู้จักคำว่า “เซลฟี่” กันอย่างกว้างขวาง แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า คำว่าเซลฟี่เป็นคำแสลงของชาวออสเตรเลีย และผู้ให้กำเนิดคำนี้ก็คือชาวออสเตรเลียขี้เมาคนหนึ่งนามว่า นาธาน โฮป ที่เขียนมันลงไปในฟอรั่มแห่งหนึ่งในปี 2002 โดยข้อความที่เขาเขียนคือ

“อืมม… เมาอยู่ในงานวันเกิดปีที่ 21 ของเพื่อน ผมเดินสะดุดปากกระแทกพื้น (พร้อมกับฟันหน้าตามมาติดๆ) ริมฝีปากด้านล่างมีรูยาวประมาณ 1 ซม. และขอโทษนะที่โฟกัสไม่ชัด มันคือการเซลฟี่”

14. บริการแพทย์การบินหลวง (Royal Flying Doctor Service)

บริการแพทย์การบินหลวง คือองค์กรด้านการแพทย์ฉุกเฉินทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยถูกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1928 เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่อาศัยอยู่ในชนบทหรือพื้นที่ห่างไกลของออสเตรเลีย และพวกเขายังมีแพทย์ที่ชำนาญการด้านสาขาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกุมารแพทย์ นรีแพทย์ ทันตแพทย์ นักจิตวิทยา และแพทย์สาขาอื่นๆ อีกมากมาย

15. และสุดท้าย เราสามารถพบเจอสัตว์มาเซอร์ไพรส์คุณได้ทุกที่ มันอาจโผล่มาในชักโครก

สถานที่รกร้าง ถ้าไม่จำเป็นอย่างเข้าไปเด็ดขาด

วันดีคืนดี ก็อาจมีเพื่อนโผล่มาทักทายคุณในระยะประชิด

มีแมงมุมหลายชนิดที่ตัวใหญ่ จนคุณไม่อาจคิดเลยว่า มันจะมีตัวแบบนี้อยู่จริงบนโลก

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา