นี่คือความแตกต่างของคุกแต่ละประเทศ เมื่อมาตรฐานของเราไม่เท่ากัน

อ้างอิงจาก สถาบันวิจัยนโยบายอาชญากรรม ระบุว่า มีผู้คนมากถึง 10.35 ล้านคนที่ถูกพบว่ากระทำความผิดทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องขังชั่วคราว นักโทษที่อยู่ในระหว่างตัดสินความผิด และนักโทษที่อยู่ในเรือนจำ

จากการเปรียบเทียบกับปี 2000 จำนวนของนักโทษหญิงเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในขณะที่นักโทษชายเพิ่งขึ้นราว 18% แต่ประเด็นคือจำนวนประชากรนักโทษนั้นคนข้างแตกต่างกันทั่วโลก ตัวอย่างอย่างในอเมริกาจะมีนักโทษราวๆ 698 คนต่อประชากร 100,000 คน ในขณะที่เดนมาร์กมีเพียง 61 คนเท่านั้น และวันนี้เพชรมมายาจึงขอพาทุกท่านมาชมภาพเปรียบเทียบในคุกแต่ละประเทศ ที่แสดงให้เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนว่าคุกแต่ละแห่งแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันอย่างไร

1. คุกอารังฆูเอซ, อารังฆูเอซ, สเปน

คุกแห่งนี้อนุญาตให้พ่อแม่และลูกๆ อยู่กับสมาชิกในครอบครัวที่ถูกกักขังด้วยกันได้ ทีนี่มีทั้งตัวการ์ตูนบนกำแพง เนอร์เซอรี และสนามเด็กเล่น เป้าหมายของที่นี่คือการไม่ให้เด็กๆ รับรู้ว่าพ่อแม่ของพวกเขาอยู่ภายหลังลูกกรงเหล็ก

2. คุกบาสตอย, ฮอร์เตน, นอร์เวย์

นี่คุกที่ได้ชื่อว่าสบายที่สุดในโลก และมีการรักษาความปลอดภัยต่ำที่สุดในนอร์เวย์ มันตั้งอยู่บนเกาะบาสตอย ที่ใช้พื้นที่ทั้งเกาะทำเป็นคุก แต่สภาพคุกที่นี่ดูเหมือนเป็นชุมชนเล็กๆ ที่มีสิ่งปลูกสร้งประมาณ 80 แห่ง ถนน ชายหาด สวนสาธารณะ สนามฟุตบอล พื้นที่การเกษตร และป่า นอกจากนั้นภายในคุกแห่งนี้ยังมีร้านค้า ห้องสมุด ศูนย์สุขภาพ โบสถ์ โรงเรียน และท่าเรือข้ามฟาก นักโทษบางคนที่นี่ก่อคดีรุนแรง แต่เป้าหมายของที่นี่คือการใช้สิ่งแวดล้อมที่ดีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักโทษให้กลับไปสู่สังคมปกติได้

3. คุกลูซิรา, กัมปาลา, อูกานดา

คุกแห่งนี้มีการมอบหมายความรับผิดชอบต่างๆ มากกว่าในอังกฤษหรืออเมริกา นักโทษต้องอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี และทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย อย่างเช่นการทำการเกษตร เพื่อไว้ใช้กินอยู่ภายในคุก การศึกษาวิชาต่างๆ รวมถึงทักษะที่ถูกพัฒนาเพื่อนำไปประกอบอาชีพได้ สัดส่วนผู้คุมในนักโทษแห่งนี้คือ 1:35 คน ซึ่งเทียบกับในอังกฤษคือ 1:15 คน นอกจากนั้น อัตราการย้อนกลับมาเข้าคุกยังน้อยกว่า 30% เมื่อเทียบกับอังกฤษที่ 46% และอเมริกาที่สูงถึง 76%

4. คุกหญิงล้วนซานดิเอโก, การ์ตาเฮนา, โคลอมเบีย

นักโทษหญิงในคุกแห่งนี้จะได้รับอิสรภาพในทุกๆ คืน และพวกเธอจะเปลี่ยนไปทำงานเป็นแม่ครัว พนักงานเสิร์ฟ พนักงานล้างจาน ในร้านอาหารที่ชื่อ Interno โดยเปิดให้บริการในลานในร่มแห่งหนึ่ง นักโทษ 25 จาก 180 คนจะได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ที่นี่ โดยถูกเลือกจากนักโทษที่ใกล้จะครบกำหนดถูกปล่อยตัว นี่คือหนึ่งในโครงการที่ช่วยให้พวกเธอปรับตัวเพื่อเตรียมกลับไปสู่สังคมภายนอก

5. คุกนอร์เจอร์ฮาเวน, เนเธอร์แลนด์

ภายในห้องขังของนักโทษแห่งนี้มีทั้งเตียงนอน เฟอร์นิเจอร์ ตู้เย็น และทีวี รวมถึงมีห้องน้ำส่วนตัว เนเธอร์แลนด์ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมาก จนต้องเผชิญกับวิกฤตนักโทษขาดแคลนและทำการปิดคุกกว่า 32 แห่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยวิธีแก้ปัญหาก็คือการโอนนักโทษจากนอร์เวย์เข้ามายังเรือนจำ เพื่อให้เรือนจำมีนักโทษและยังเปิดต่อไปได้

6. คุกฮาลเดน, ฮาลเดน, นอร์เวย์

คุกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของนอร์เวย์ ที่สร้างขึ้นในปี 2010 และมีเป้าหมายในการส่งนักโทษที่มีคุณภาพกลับสู่สังคม มันถูกออกแบบมมาให้คล้ายกับการใช้ชีวิตนอกคุก นักโทษมีกิจกรรมให้ทำไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรีหรือกีฬา รวมถึงยังมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คุมที่ไม่ได้พกอาวุธติดตัว เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีให้แก่กัน นอกจากนั้นคุกแห่งนี้ยังได้รับรางวัลการออกแบบภายใน รวมถึงได้รับการยกย่องเรื่องมนุษยธรรมอย่างมาก แต่บางคนก็มองว่าที่นี่มันสบายเกินกว่าจะเป็นคุก

7. คุกเกซอนซิตี , ฟิลิปปินส์

ภายในคุกแห่งนี้ในเมืองมะนิลา มีปัญหาขาดแคลนทั้งพื้นที่อยู่อาศัย น้ำ และอาหาร นักโทษที่นี่ต้องอาศัยอยู่อย่างไม่ถูกสุขลักษณะ ห้องขังสำหรับนักโทษ 20 คน แต่กลับมีนักโทษมากถึง 160-200 คนต่อห้อง นักโทษหลายคนต้องมานอนบนพื้นสนามบาสเก็ตบอลกลางแจ้ง ตามขั้นบันได ใต้เตียง หรือเปลที่ทำมาจากผ้าห่ม

8. คุกเมาลา, มาลาวี

นี่คือคุกที่มีความมแออัดเป็นอันดับต้นๆ ก็ว่าได้ ห้องขังขนาด 60 คนในคุกแห่งนี้สามารถอัดนักโทษลงไปอยู่อาศัยได้ถึง 200 คน โดยมีห้องน้ำ 1 ห้อง สำหรับคน 120 คน และมีก๊อกน้ำ 1 ก๊อก ต่อคน 900 คน นักโทษที่นี่จะได้รับอาหาร 1 มื้อต่อวัน เนื่องจากปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายของรัฐบาลมาลาวี สิ่งที่ดีที่สุดในคุกแห่งนี้ก็คือเรื่องกีฬา นักโทษชายสามารถเล่นฟุตบอล และผู้หญิงสามารถเล่นบาสเก็ตบอลได้

9. คุกโอโนมิจิ, ญี่ปุ่น

คุกสำหรับผู้สูงอายุเป็นเรื่องปกติมากในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคุกโอโนมิจิถือเป็นคุกที่มีแต่นักโทษอาวุโสรวมกันราวกับบ้านพักคนชรา นักโทษสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยที่นี่มีทั้งอาหารอ่อนให้ และพวกเขาสามารถใช้เวลาว่างในการเย็บปักถักร้อยได้อีกด้วย

10. พาเนล เดอ ซิวดัด บาร์ริออส, ซานมิเกล, เอล ซัลวาดอร์

นี่คือคุกที่มีความกว้างเพียง 12 ฟุตและสูงเพียง 15 ฟุตเท่านั้น แต่มันก็สามารถกักขังนักโทษได้มากถึง 30 ราย เดิมทีคุกแห่งนี้ถูกสร้างมาเพื่อกักตัวนักโทษเป็นเวลา 72 ชั่วโมง แต่ยังมีนักโทษมากมายที่ถูกขังมานานกว่า 1 ปีแล้ว เวลาส่วนใหญ่พวกเขาจะใช้ไปกับการเอาเสื้อผ้ามามัดทำเป็นเปลนอนเพื่อผูกไว้กับลูกกรง และนอนหลับซ้อนๆ กันขึ้นไป

ส่วนคุกในประเทศไทยเองก็คงไม่ได้แตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านเราสักเท่าไหร่

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา