อาจฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่จากผลการสำรวจล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่า โลกเราในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และด้านผลิตกรรมต่างๆ ได้ผลักดันให้โลกเข้าสู่ยุคทางธรณีวิทยาใหม่ขึ้น และเราเองก็ไม่เคยได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นด้วยตัวเองสักเท่าไหร่ แต่ในวันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านมาชมการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในรอบ 50 ปีหลังกัน ว่าโลกเรามีการเปลี่ยนแปลงแบบไหน
1. ทะเลสาบที่แห้งแล้ง
ทะเลสาบปูโป (Poopó Lake) คือทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศโบลิเวีย และถือเป็นแหล่งประมงที่สำคัญแห่งหนึ่งสำหรับชาวเมืองท้องถิ่น แต่ปัจจุบันนี้ทะเลสาบปูโปได้แห้งแล้งไปมากกว่า 90% เนื่องจากการทำเมืองแร่และการเกษตร ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทะเลสาบแห่งนี้แห้งเหือดไป เพราะในปี 1994 เองก็เคยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีกว่าทะเลสาบจะฟื้นคืนกลับมาเหมือนเก่า
2. ธารน้ำแข็งละลาย
นี่คือภูเขาแมตเตอร์ฮอร์น ซึ่งเป็นสกีรีสอร์ทยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยว โดยภาพซ้ายคือช่วงเวลาในเดือนสิงหาคม 1960 เปรียบเทียบกับภาพขวาคือเดือนสิงหาคมในปี 2005 เราจะเห็นได้ว่าหิมะลดลงไปมากขนาดไหน
3. มลพิษลดลง
โลกไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่ในทางที่ไม่ดีเท่านั้น เพราะจากภาพถ่ายดาวเทียมของทางนาซ่าได้เผยให้เห็นมลพิษจากก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ที่มาจากรถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรมมในสหรัฐอเมริกา ที่ลดลงอย่างมากในระหว่างปี 2005 และ 2011 โดยตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา ทางรัฐบาลสหรัฐได้ดำเนินโครงการปฏิรูปด้านสิ่งแวดล้อมและโรงไฟฟ้าหลายแห่ง ถูกเปลี่ยนจากการใช้ถ่านหินเป็นก๊าซธรรมชาติแทน
4. ระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เพื่อการขยับขยายการทำฟาร์มในภูมิภาค ทางรัฐบาลของลิเบียจึงได้เริ่มดำเนินโครงการชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมันถูกตั้งชื่อว่า Great Man-Made River ซึ่งภาพนี้แสดงให้เห็นว่า โครงการนี้เติบโตขึ้นมากแค่ไหนตั้งแต่ปี 1987 จนถึงปี 2010
5. เปลี่ยนทะเลทรายเป็นพื้นที่เพาะปลูก
นี่คือภาพพของลุ่มน้ำ วาดิ อัซ-เซอร์ฮัน ในซาอุดิอาราเบีย ที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา พื้นที่แถบนี้ได้รับการเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่เพาะปลูก รัฐบาลท้องถิ่นได้ตัดสินใจที่จะส่งน้ำผ่านท่อลำเลียงใต้ดินมายังพื้นที่บริเวณนี้ ให้ชาวนาได้ใช้เพาะปลูกสวนผักและผลไม้ในทะเลทรายได้
6. การเติบโตของเมือง
ภาพด้านบนแสดงให้เราเห็นผังเมืองขนาดใหญ่ของเมืองปินไห่ ในประเทศจีน ตั้งแต่ปี 1992 โดยเมืองแห่งนี้ได้รับการเปลี่ยนแปลงจากเขตพื้นที่ห้วยหนองคลองบึง ให้กลายเป็นเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จนปัจจุบัน ปินไห่กลายเป็นที่ตั้งของบริษัทเคมีภัณฑ์ การบินและอวกาศ และบริษัทขนาดใหญ่อีกมากมายนับไม่ถ้วน
7. เกาะเทียม
เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ทางรัฐบาลของดูไบจึงได้สร้างเกาะเทียมจำนวนมากตามแนวชายฝั่งขนาด 2.5 ล้านตารางฟุต ซึ่งเกาะที่มีชื่อเสียงที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือเกาะที่มีรูปต้นปาล์ม โดยภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าเมืองดูไบนั้นเติบโตไปมากขนาดไหน ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 11 ปีเท่านั้น
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : brightside