ชีวิตที่น่าเศร้าของเพนกวิน จากสภาวะโลกร้อนที่อาจสูญพันธ์ในไม่ช้า

อ้างอิงจากนักวิทยาศาสตร์ที่สถาบัน Goddard ของนาซ่า ระบุว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2016 ถือเป็นช่วงครึ่งปีแรก ที่มีอากาศร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมา แน่นอนว่า บรรดาเพนกวินในแอนตาร์กติกาต้องไม่ชอบกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นแบบนี้ เพราะเพนกวินถือเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนต่อสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก

penguin-01

เพนกวินสายพันธุ์ Adelie และ Chinstrap ถือเป็นเพนกวินที่มีความเสี่ยงมากกว่าเพนกวินสายพันธุ์ Gentoo ซึ่งส่งผลให้จำนวนของพวกมันลดลงเรื่อยๆ

penguin-02

ในความเป็นจริงแล้ว เพนกวินทุกสายพันธุ์มักจะได้ประโยชน์จากการละลายของน้ำแข็งใน คาบสมุทรแอนตาร์กติก เพราะเพนกวินจะมีพื้นที่เปิดมากขึ้นสำหรับการผสมพันธุ์

penguin-03

ส่วนการสร้างรังของนกเพนกวิน มันจะหาพื้นโล่งบนพื้นน้ำแข็งหรือหิมะบริเวณริมชายฝั่ง เพื่อเป็นที่เหมาะๆ ในการทำรัง

penguin-04

พ่อแม่นกเพนกวินจะช่วยกันสร้างรังเป็นวงกลมจากก้อนหิน หญ้า มอส และขนของพวกมันเอง

penguin-05

แต่อาการที่ร้อนขึ้น ทำให้ตัวเคย (Krill) ที่เป็นแหล่งอาหารหลักของเพนกวิน ลดลงมากที่สุดในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา แถมบริษัทประมงยังนิยมจับตัวเคยไปทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากมีมันค่าโอเมก้า 3 ที่สูงมาก

penguin-06

มีเพียงเพนกวิน Gentoo เท่านั้น ที่สามารถปรับตัวภายใต้ภาวะเสี่ยงแบบนี้ได้

penguin-07

ถึงแม้แหล่งอาหารจะลดลง แต่ Gentoo มีความยืนหยุ่นในการปรับตัวได้ดีกว่า Adelie และ Chinstrap เพราะพวกมันกินปลาเป็นอาหารหลัก

penguin-09

นั่นจึงทำให้จำนวนของเพนกวิน Gentoo มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นแทน

penguin-08

นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 จำนวนเคย ที่อยู่ในเขตคาบสมุทรแอนตาร์กติก มีจำนวนลดลงมากถึง 80%

penguin-10

เพนกวิน Adelie มีจำนวนลดลงอย่างมากจากสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

penguin-11

ในเอกสารหนึ่งที่ถูกตีพิมพ์เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ในวารสาร Scientific Reports ระบุว่า ประมาณ 30% ของอาณาจักรเพนกวิน Adélie ในปัจจุบันจะหายไป ภายในปี 2060

penguin-12

ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน ที่ทำให้อุณหภูมิของโลกโดยเฉลี่ยสูงขึ้นในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา

penguin-13

และที่มาของก๊าซพิษเหล่านี้ก็คือ การใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์เรา ไม่ใช่เพียงแค่สัตว์โลกที่อยู่ห่างไกลอย่างเพนกวิน ที่จะได้รับผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน

แต่พวกเราที่สัมผัสแสงแดดที่ร้อนแรงขึ้นทุกวัน ไม่ต้องโทษใครที่ไหน เพราะสาเหตุมันมาจากพวกเรานั่นเอง

ที่มา : massimorumi.com | boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจเพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ