พัลไมรา (Palmyra) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองดามัสมัสไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 200 กิโลเมตร ในประเทศซีเรีย ถือเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่เป็นมรดกโลก โดยมีอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนว่า พัลไมราจะถูกทำลายโดยไม่เหลือซากแบบนี้ นี่คือภาพเปรียบเทียบที่ถูกถ่ายเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2014 และล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2016 หลังรัฐบาลซีเรียยึดพัลไมราคืนจาก ISIS (ภาพโดย Joseph Eid)
ในอดีต ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3 เมืองพัลไมรา ถือเป็นศูนย์กลางภูมิภาคที่รุ่งเรืองจนถึงขีดสุด ชาวนครพัลไมรามั่งคั่งจากคาราวานการค้า ด้วยความที่เป็นอาณานิคมที่อยู่ในเส้นทางสายไหม และการติดต่อการค้ากับจักรวรรดิโรมัน จึงทำให้พัลไมรา สามารถสร้างสถาปัตยกรรมที่อลังการได้มากมาย
ปี 2011 ก่อนที่ซีเรียจะเกิดวิกฤตสงครามกลางเมือง พัลไมรา คือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมากว่า 150,000 คนต่อปี ความงามของวิหารต่างๆ เสาหินนับพันต้น และสุสานนับ 500 หลุม คือประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์อย่างยิ่ง
จนกระทั่งในปี 2013 เป็นต้นมา เกิดเหตุปะทะกันระหว่างรัฐบาลซีเรียและกลุ่มกบฏ จนทำให้สถานที่แห่งนี้เริ่มเสียหายขึ้นเรื่อยๆ เสาหินและรูปปั้นบางส่วนพังทลาย ถึงแม้จะมีการย้ายวัตถุโบราณบางส่วนออกไปได้ แต่โครงสร้างของเมืองที่ยังอยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็เสียหายไปพอสมควร
ในปี 2015 หลังจากที่ผู้ก่อการร้าย ISIS เข้ายึดนครแห่งนี้ได้ มีการถ่ายคลิปการทำลายรูปปั้น และสถานที่สำคัญหลายแห่ง และใช้ที่นี่เป็นลานประหาร จนล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางรัฐบาลซีเรียได้ยึดพัลไมราคืนจาก ISIS ได้สำเร็จ
ในระหว่างการปะทะกันครั้งนี้ กลุ่ม ISIS ได้วางระเบิดตามซากประติมากรรมต่างๆ ซึ่งผลลัพธ์ก็คือความเสียหายจนไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้อีกต่อไป การสูญเสียครั้งนี้ ถือเป็นการสูญเสียทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ไม่ใช่แค่ชาวซีเรีย แต่นี่คือความสูญเสียระดับโลกเลยทีเดียว
ที่มา : Joseph Eid | mashable | เรียบเรียงโดย เพชรมายา